อินดีเพนเดนท์ – นักธุรกิจผู้มั่งคั่งได้จ่ายเงินค่าปรับแทนผู้หญิงสามคนที่ท้าทายการห้ามสวมเบอร์กินี่ (ชุดว่ายน้ำแบบมุสลิม) ของฝรั่งเศส และยังเสนอที่จะจ่ายค่าปรับแก่คนอื่นๆ ที่ถูกตั้งข้อหาภายใต้กฎหมายใหม่ของฝรั่งเศส
ราชิด นิกกาซ นักธุรกิจอสังหาริมทรัพย์เชื้อสายแอลจีเรียกล่าวว่า ส่วนตัวเขาเองนั้นไม่เห็นด้วยกับเบอร์กินี่และนิกอบ (niqab ผ้าปิดหน้าเว้นนัยน์ตาตามแบบมุสลิมบางกลุ่ม) แต่เขาเชื่อว่าภายใต้ระบบประชาธิปไตย ไม่มีผู้ใดมีสิทธิที่จะห้ามไม่ให้บุคคลอื่นสวมใส่เสื้อผ้าที่พวกเขาต้องการ “โดยที่เสื้อผ้านี้ไม่ได้เป็นภัยคุกคามต่อเสรีภาพของผู้อื่นหรือความมั่นคงของดินแดน”
“ทันทีที่ผมเห็นว่าฝรั่งเศสไม่เคารพเสรีภาพขั้นพื้นฐาน ผมก็ควักสมุดเช็คของผมออกมา” เขากล่าวในการให้สัมภาษณ์กับเดลี่เทเลกราฟ
ใน ปี 2010 นายราชิดที่เติบโตขึ้นมาในย่านชานเมืองปารีส แต่สละสัญชาติฝรั่งเศสของเขาในปี 2013 ได้จัดงบเป็นเงิน 1ล้านยูโร (ราว 40 ล้านบาท) สำหรับการตั้ง “กองทุนปกป้องเสรีภาพ” เพื่อที่จะจ่ายค่าปรับให้แก่ผู้หญิงที่ต้องการจะยังคงสวมใส่นิกอบ หลังจากที่มันได้กลายเป็นสิ่งผิดกฎหมายในประเทศฝรั่งเศสและเบลเยี่ยม เขาได้จ่ายไปแล้วมากกว่า 200,000 ปอนด์ (ราว 9 ล้านบาท) เพื่อช่วยเหลือผู้หญิงมุสลิมที่ฝ่าฝืนการห้ามปิดใบหน้า
เบอร์ กินี่ (burkini) ชุดว่ายน้ำปิดร่างกายเต็มรูปแบบซึ่งจะช่วยให้ผู้หญิงมุสลิมสามารถว่ายน้ำโดยไม่ต้องเปิดเผยร่างกายของพวกเขาได้กลายเป็นสิ่งต้องห้ามในเมืองท่องเที่ยวชายทะเลของฝรั่งเศส ทั้งเมืองซิสโก คานส์, และนืซ อย่างน้อยมีผู้หญิง 4 คนแล้วที่ถูกปรับเพราะฝ่าฝืนกฎใหม่นี้ และอีกอย่างน้อย 6 คน ที่ถูกขอให้ออกจากชายหาด แต่ไม่ได้ถูกปรับเพราะพวกเธอปฏิบัติตาม