อดีตส.ส.สุรินทร์ ตั้งข้อสังเกต นายทุนขายข้าวตัดราคาชาวนา ช่วยหรือซ้ำเติมกันแน่??

ฟาริดา สุไลมาน อดีตส.ส.สุรินทร์

เดอะพับลิกโพสต์ – ฟาริดา สุไลมาน อดีตส.ส.สุรินทร์หลายสมัย ตั้งคำถาม “ขายข้าวตัดราคาแบบนี้ แล้วจะให้ชาวนายืนได้อย่างไร??” หลังนายทุน-ห้างร้านอ้างออกมาตรการช่วยเหลือชาวนา แต่ขายข้าวตัดราคาชาวนาที่รวมตัวกันสีข้าวใส่กระสอบมาขายกันเอง

สืบเนื่องจากสถานการณ์ปัจจุบันที่ข้าวเปลือกราคาตกต่ำจนชาวนาต้องรวมตัวกันสีข้าวใส่กระสอบขนมาขายกันเองเพื่อความอยู่รอด แต่ขณะเดียวกันนายทุน-ห้างร้านบางแห่งได้ออกมาตรการอ้างว่าเพื่อช่วยเหลือชาวนา โดยการไปซื้อข้าวตรงจากชาวนานำไปสีและจำหน่ายผ่านร้านค้าในเครือข่ายทั่วประเทศ แต่ทุบราคาขายต่ำกว่าที่ชาวนานำมาขายเอง ซึ่งข้าวดังกล่าวเป็นข้าวหอมมะลิใหม่ 100% โดยบางกลุ่มทุนขายเพียง 5 กิโลกรัม 125 บาท นั้น

นางฟาริดา สุไลมาน อดีตส.ส.หลายสมัยของจังหวัดสุรินทร์ ได้ตั้งข้อสังเกตต่อกรณีดังกล่าวว่า เมื่อนายทุนยังตามมากำหนดกลไกและขายตัดราคาเช่นนี้ แล้วชาวนาจะขายข้าวได้ราคาอย่างไร??

“ปรกติข้าวสารหอมมะลิชั้น 1 ที่เราซื้อมารับประทานนั้นกิโลกรัมละประมาณ 40 บาท แต่จากสถานการณ์ปัจจุบันที่ข้าวเปลือกราคาตกต่ำ ชาวนาขายข้าวเปลือกให้โรงสีได้แค่กิโลฯ ละ 5-7 บาท ทำให้ไม่คุ้มและขาดทุน เขาจึงรวมตัวกันสีข้าวใส่กระสอบมาขายกันเองได้ราคา 5 กิโลฯ 160-170 บาท เขาก็ดีใจแล้ว แม้จะเหนื่อย ต้องขนมาขายถึงมือพี่น้องโดยตรง แต่ก็ทำให้พออยู่ได้ พอหายเหนื่อยกันบ้าง” อดีตส.ส.สุรินทร์ กล่าว

“แต่เมื่อมาเจอกลุ่มทุนและห้างร้านบางแห่งขายตัดราคาแบบนี้ แล้วจะให้ชาวนายืนได้อย่างไร?” นางฟาริดา ตั้งคำถาม และว่า “เมื่อคนไม่ซื้อข้าวจากชาวนา เพราะแพงกว่าของกลุ่มนายทุนที่นำมาขายตัดราคา แทนที่พอจะมีโอกาสรอดบ้างกลับกลายเป็นว่าชาวนาก็จะเจ๊งทั้งหมด จากนั้นนายทุนก็ค่อยกลับมาขายราคาแพงแบบผูกขาดเหมือนเดิม ชาวนาก็จะไม่มีวันลืมตาอ้าปากได้ตลอดไป”

อดีตส.ส.สุรินทร์ ยังได้วอนประชาชนชาวไทยว่า“อยากให้เข้าใจ เห็นใจด้วยว่า ในสถานการณ์ปัจจุบันนั้นชาวนาสุดแสนลำบากอยู่แล้ว เขาจึงต้องออกมาขายข้าวเองโดยตรง แล้วเมื่อมาเจอกระแสนายทุนขายตัดราคา ก็เท่ากับเป็นการซ้ำเติมและปิดทางรอดของเขา อยากให้คนไทยแยกแยะว่า มาตรการต่างๆ นั้นก็เพื่อช่วยเหลือชาวนาที่ยังไม่เข้มแข็งให้สามารถยืนได้ด้วยตนเอง ดังนั้นถึงแม้ราคาที่ชาวนานำมาขายโดยตรงจะแพงกว่าของนายทุนก็อยากวอนให้คนไทยซื้อจากชาวนาโดยตรงจึงจะเป็นการช่วยเหลือชาวนาจริงๆ”

นางฟาริดา สุไลมาน กล่าวด้วยความเป็นห่วงว่า “การดั๊มราคาเพื่อให้ขายข้าวได้ เป็นการแข่งขันกัน และให้เกิดกระแสขายข้าวช่วยชาวนา แต่ในที่สุดด้วยระบบทุนที่ไม่เข้มแข็งพอ ชาวนาอาจต้องล้มทั้งยืน อย่างไรก็ตามขอให้ชาวนายืนหยัดในมาตราฐานข้าว อย่าหวั่นไหว แม้จะมีกระแสข้าวช่วยชาวนาที่ถูกกว่าราคาผลิต และในวิกฤติราคาข้าวครั้งนี้ ฝากถึงประชาชนคนไทยขอช่วยกันให้โอกาสแก่ชาวนาที่ถูกเอาเปรียบมาตลอดจากระบบนายทุน”

“นอกจากนั้นผู้ค้าข้าวต้องมีจรรยาบรรณ ไม่ปลอมปน เอาข้าวนาปรังมาผสมข้าวนาปี หรือเอาข้าวต่างชาติมาผสม แล้วแข่งกันขาย ขอให้คนไทยช่วยให้ชาวนายืนได้ด้วยตนเอง ส่งเสริม สนับสนุน โดยเฉพาะจังหวัดสุรินทร์ ที่มีชื่อเสียงในด้านข้าวหอมมะลิ ที่มีชื่อเสียง เป็นข้าวที่ดี  เพื่อรักษามาตรฐานข้าวของคนไทยต่อไป” นางฟาริดา สุไลมาน อดีตส.ส.สุรินทร์ กล่าว