นายอนุชา เกียรติธารัย นักศึกษาปริญญาเอก มหาวิทยาลัยมุสตอฟานานาชาติ เมืองกุม ประเทศอิหร่าน (ปัจจุบันกำลังศึกษาปริญญาเอก อยู่ที่วิทยาเขตเตหะราน) อดีตอาจารย์พิเศษวิชาประวัติศาสตร์ตะวันออกกลาง มหาวิทยาลัยศิลปากร ได้เขียนบทวิเคราะห์ในเฟสบุ๊คส่วนตัว ชื่อเรื่อง “ทรัมป์มีเป้าหมายอะไรในการข่มขู่อิหร่านครั้งล่าสุด?” โดยเฉพาะมุมมองในบทความต่อสถานการณ์ในตะวันออกกลางหากสหรัฐฯ ตัดสินใจบุกอิหร่าน ซึ่งทางกองบก.เห็นว่าเป็นมุมมองที่น่าสนใจ จึงได้หยิบมานำเสนอ โดยมีเนื้อหาดังต่อไปนี้ :
“ทรัมป์มีเป้าหมายอะไรในการข่มขู่อิหร่านครั้งล่าสุด?”
จริงๆ แล้ว ประโยคที่ทรัมป์พูดว่า “สหรัฐสามารถใช้ทุกมาตรการกับอิหร่านได้” (รวมถึงมาตรการทางการทหาร) นั้น มิใช่ทรัมป์ที่พูดเป็นคนแรก แต่ประธานาธิบดีคนก่อนๆ ของสหรัฐต่างก็เคยเปล่งวาจาเช่นนี้กันมาแล้ว ไม่ว่า จอร์จ ดับเบิลยู บุช, โอบามา
สำคัญตรงที่ว่า มันไม่เคยเกิดขึ้นจริง!
เพราะอะไรหรือ? เพราะมะกันเคารพสิทธิมนุษยชน? เพราะมะกันเป็นห่วงการสูญเสียของพลเรือน? ฯลฯ
เปล่าเลย สหรัฐไม่ได้สนใจกระดาษห่อของขวัญเหล่านี้มาตั้งแต่ใหนแต่ไรแล้ว ไม่เช่นนั้นคงไม่บุกอัฟกานิสถาน อิรัก เวียดนาม และประเทศอื่นๆอีกมาก
ความแตกต่างระหว่างโอบามากับทรัมป์จึงไม่ใช่มนุษยธรรม ประชาธิปไตย ฯลฯ
แต่สองคนนี้ต่างกันแค่ว่า โอบามานำปืนมาห่อกระดาษห่อของขวัญเหล่านี้ก่อนจะจี้หัวชาวบ้าน ส่วนทรัมป์จ่อหัวเอาดื้อๆ ไม่ต้องห่ออะไรให้แลดูสวยงามทั้งสิ้น
…….
แล้วเหตุใดบุช โอบามา จึงไม่ได้บุกอิหร่าน ที่จะเหมารวมถึงทรัมป์ว่าคงจะไม่บุกเช่นกัน?
สาเหตุมาจากการคำนวนส่วนได้ส่วนเสียล้วนๆ หากบุกอิหร่าน สหรัฐจะได้อะไร และเสียอะไรบ้าง?
ได้คุ้มเสียหรือไม่?
ดูผิวเผินแล้ว สหรัฐแทบจะไม่ต้องคิดใดๆ เพราะประเทศตัวเองอยู่ห่างจากสมรภูมิหลายพันกิโล อิหร่านเองก็คงยังไม่มีขีปนาวุธพิสัยไกลข้ามทวีป ฉะนั้น การบุกอิหร่านน่าจะสะดวกโยธิน…
แต่เปล่าเลยครับ สิ่งที่ทำให้สหรัฐต้องคิดทบทวนเป็นร้อยรอบก่อนบุกอิหร่าน ซึ่งก็มักจะล้มเลิกทุกครั้งนั่นก็คือ … แสนยานุภาพด้านขีปนาวุธ + กองกำลังตัวแทน
อิหร่านไม่จำเป็นต้องโจมตีสหรัฐโดยตรงหรอกครับ เพราะสหรัฐขนทรัพย์สินมาให้ล้อกเป้ายิงถึงที่
อีกทั้งกล่องดวงใจของชนชั้นปกครองของสหรัฐ (ซึ่งอยู่ใต้อาณัติของนายทุนยิว) ก็ไม่ไช่นิวยอร์กหรือวอชิงตัน
แต่เป็นอิสราเอล
หากสหรัฐบุกโจมตีอิหร่าน เหตุการณ์เหล่านี้จะเกิดขึ้นรวดเร็วจนทรัมป์ตั้งรับแทบไม่ทัน:
ฐานทัพเรือสหรัฐแถบอ่าวเปอร์เซีย ค่ายทหารต่างๆของ สหรัฐละแวกนั้นกลายเป็นเป้านิ่งของขีปนาวุธอิหร่านแทบจะทันที
ต่อมาทหารมะกันในอิรักก็จะตกอยู่ในสภาพตัวประกันท่ามกลางกองกำลังตัวแทนของอิหร่านที่เป็นชาวอิรัก อย่างกลุ่ม อัน นุจะบา และกลุ่มอื่นๆ
ถ้าอิสราเอลเอาด้วยกับสหรัฐ (ซึ่งเอาด้วยแน่นอน) เมืองท่าไฮฟาอันเป็นเมืองเศรษฐกิจและเมืองหลวงเทลาวีฟจะเป็นเป้านิ่งสำหรับขีปนาวุธอิหร่านซึ่งระดมยิงจากใต้ดินและจากเรือดำน้ำดุจห่าฝน อิหร่านเคยขู่กลับอิสราเอลไว้ว่า หากอิสราเอลส่งเครื่องบินมาบอมบ์ ขากลับจะไม่มีสนามบินหลงเหลือให้ลงจอด…
กองกำลังภาคประชาชนในอิรัก (อันนุจะบาและกลุ่มอื่นๆ) เลบานอน (ฮิซบุลลอฮ์) เยเมน (อันศอรุลลอฮ์) ซีเรีย (ฟาฏิมียูนอัฟกันและกลุ่มอื่นๆ) จะป่วนผลประโยชน์ของพันธมิตรสหรัฐอย่างอิสราเอล ซาอุฯ ไปถึงอัฟกานิสถาน
ฮิซบุลลอฮ์จะเปิดเกมรุกฆาตอิสราเอลแบบจรยุทธ์ตามที่ได้ฝึกปรือจนช่ำชองในยุทธการซีเรีย บวกกับจรวดวิสัยใกล้ไกลที่อิหร่านส่งมาตุนไว้กว่าหนึ่งแสนห้าหมื่นลูก
ช่องแคบฮอร์มุซในอ่าวเปอร์เซียจะถูกปิด เรือรบที่ผ่านช่องแคบมันเดบในทะเลแดงจะถูกโจมตีโดยกลุ่มอันศอรุลลอฮ์ (ฮูซี) นักรบแตะหนีบแห่งเยเมน
และเป็นไปได้ว่าชีอะห์แถบตะวันออกซาอุฯจะลุกฮือ ส่งผลให้อุตสาหกรรมน้ำมันซาอุฯ เป็นอัมพาต
พูดง่ายๆคือ… หากอิหร่านถูกโจมตี น้ำมันและข้าวของราคาขึ้นอย่างวินาศสันตะโรแน่นอน เพราะผ่านสองช่องแคบฮอร์มุซ&มันเดบไม่ได้ ประเทศเสี่ยน้ำมันก็จะกลายเป็นยาจกทันที
ยังไม่นับรวมกับที่อิหร่านแอบไปฝังตัวลับๆแถบละตินอเมริกาหลายปี ใครจะรู้ว่ามะกันจะโดนเอาคืนจำกัดเพียงแค่ตะวันออกกลางเท่านั้น…??
…อิหร่านอาจจะสั่งหน่วยแมวเซาให้ป่วนภายในดินแดนมะกันก็อาจเป็นได้ ใครจะรู้? (ตรงนี้เป็นเพียงข้อสันนิษฐาน)
เหล่านี้คือสิ่งที่ผู้นำมะกันต้องคิดหนัก หากจะบุกอิหร่าน
นักวิเคราะห์ชาวตะวันตกและโลกอรับชื่อดังหลายคนเชื่อว่าทรัมป์แค่เล่นปาหี่หลอกกินตังค์ซาอุฯไปวันๆ
ข่มขู่อิหร่านให้ซาอุฯใจชื้น เพราะซาอุฯพร้อมจะเดิมพันทุกอย่างแลกกับการได้กำราบอิหร่าน ล่าสุดมีข่าวจากสื่ออรับว่า คิงซัลมานอาจจะเชิญนายกฯยิวมาเยือนซาอุฯ ในเร็ววัน เพื่อร่วมล้อบบี้ทรัมป์ให้กดดันอิหร่าน ผลคือทรัมป์สั่งแบนวีซ่าแก่ชาวอิหร่านและอีกหกประเทศ และเพิ่มมาตรการข่มขู่อิหร่านอย่างรวดเร็ว
ล่าสุด รมว.พลังงานซาอุฯกล่าวว่า ซาอุพร้อมจะลงทุนในอุตสาหกรรมน้ำมันและพลังงานของสหรัฐ อีกทั้งตั้งท่าจะซื้ออาวุธมะกันล้อตใหญ่… ตรงกับนโยบายสร้างงานให้ชาวอเมริกัน…เห็นร่องรอยส่วยซาอุฯหรือยังครับ?
จากที่ทรัมป์ขู่ซาอุเช้าเย็นช่วงก่อนเลือกตั้ง แต่หลังจากโทรคุยกับคิงซาอุฯ เปลี่ยนท่าทีหน้ามือเป็นหลังมือ ประณามอิหร่านเป็นระลอกๆ อีกทั้งคว่ำบาตรบุคคลที่ทำธุรกิจกับอิหร่านทันที…
…เสี่ยน้ำมันคงจ่ายค่าคุ้มครองไปมากโข….
ก่อนเลือกตั้ง ทรัมป์เคยกล่าวถึงซาอุฯว่า…
“ซาอุฯก็เป็นเพียงแค่โคนม หากรีดนมจนหมดแล้ว มันก็ไร้ประโยชน์ต่อให้มีดอลลาร์หรือทองคำเพียงใดก็ตาม”
ฉะนั้น การที่ซาอุฯจ่ายไปมหาศาล ระวังจะได้มาแค่ลมปากของทรัมป์
เพราะนักวิจารณ์ชาวซาอุฯเองยังเตือนว่า….
“ทรัมป์จะไม่กล้ำกรายใดๆต่ออิหร่านแม้แต่กระสุนเพียงนัดเดียว
ที่ออกโรงขู่อิหร่านเช้าเย็นนี่ก็เพียงแค่…
“หลอกรูดทรัพย์ซาอุฯเท่านั้นเอง“
ขอบคุณ/ที่มา www.facebook.com/mharicy
*** ทัศนะและมุมมองในข้อเขียนชิ้นนี้ไม่จำเป็นต้องสะท้อนถึงจุดยืนของกองบรรณาธิการเดอะพับลิกโพสต์