ประธานาธิบดีอิสราเอล นายริวเวน ริฟลิน กล่าวว่า เขาสนับสนุนให้ผนวกดินแดน “เวสต์แบงก์” เข้าเป็นของอิสราเอลอย่างเต็มรูปแบบ
ระหว่างการประชุมผู้สนับสนุนการตั้งถิ่นฐานซึ่งจัดขึ้นในกรุงเยรูซาเล็มตะวันออก เมื่อวันจันทร์ (13 ก.พ.) นายริวเวน กล่าวด้วยว่า ถ้าอิสราเอลผนวกส่วนที่เหลือของเวสต์แบงก์ก็จะต้องให้ชาวปาเลสไตน์ทั้งหมดที่อาศัยอยู่ที่นั่นเป็นพลเมืองอิสราเอลเต็มตัว เพรสทีวีสื่ออิหร่านรายงาน
“ไม่มีกฎหมายที่แตกต่างสำหรับชาวอิสราเอลและไม่ใช่อิสราเอล” เขากล่าวเสริม
ขณะที่เจ้าหน้าที่อาวุโสเทลอาวีฟกล่าวว่า นายกรัฐมนตรีอิสราเอล นายเบนจามิน เนทันยาฮู ต่อต้านการจัดตั้งรัฐปาเลสไตน์
ด้านนายกิลาด เอร์ดัน รัฐมนตรีมหาดไทยอิสราเอล เสริมว่า ไม่มีสมาชิกแวดล้อมนายเนทันยาฮูคนใดที่เชื่อว่า รัฐปาเลสไตน์ควรจะถูกจัดตั้งในช่วงไม่กี่ปีข้างหน้านี้
แม้นายเนทันยาฮูจะไม่เคยประกาศเปิดเผยว่าเป็นปรปักษ์ต่อวิธีการแก้ปัญหาที่เรียกว่า “สองรัฐ” (two-state) แต่เขาก็ยังคงดำเนินการตั้งถิ่นฐานในเขตยึดครองอย่างต่อเนื่อง ซึ่งพิสูจน์ให้เห็นว่าเขาไม่ได้ยี่หระต่อแนวทางแก้ปัญหาดังกล่าว
ตั้งแต่ 20 มกราคม ที่ทรัมป์ ก้าวขึ้นสู่ตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐ อิสราเอลได้เริ่มต้นการแผ่อาณาเขตที่สำคัญ ซึ่งรวมถึงโครงการก่อสร้างนิคมชาวยิวนับพันยูนิตในเขตเวสต์แบงก์
ในเดือนธันวาคม 2016 คณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติมีมติที่ 2334 ประณามอิสราเอลเรื่องการตั้งถิ่นฐานว่าเป็น “การละเมิดกฎหมายระหว่างประเทศอย่างชัดเจน”
การขยายตัวอย่างต่อเนื่องของการตั้งนิคมชาวยิวของอิสราเอลในดินแดนึดครองปาเลสไตน์ได้สร้างอุปสรรคสำคัญต่อความพยายามในการสร้างสันติภาพในตะวันออกกลาง
ชาวอิสราเอลกว่าครึ่งล้านที่อาศัยอยู่ในนิคม 230 แห่งที่ผิดกฎหมายซึ่งสร้างขึ้นนับตั้งแต่อิสราเอลยึดครองเวสต์แบงก์และเยรูซาเล็มตะวันออกของปาเลสไตน์ในปี 1967