กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม (กสอ.) แนะ 5 กลยุทธ์ ที่จะช่วยให้ผู้ประกอบการสามารถ ดำเนินธุรกิจอุตสาหกรรมได้อย่างก้าวไกลภายใต้นโยบายการพัฒนาเศรษฐกิจของสหรัฐอเมริกา “อเมริกาเฟิร์ส (America First)” อีกทั้งยังได้จัดเตรียมงบประมาณกว่า 830 ล้านบาท เพื่อพัฒนาผู้ประกอบการกว่า 30 โครงการ ครอบคลุมผู้ประกอบการทุกประเภท เพื่อพัฒนาให้ผู้ประกอบการได้เติบโตและมีช่องทางในการดำเนินอุตสาหกรรมที่มากขึ้น
นายพรเทพ การศัพท์ รองอธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม กล่าวว่า จากการดำเนินแผนพัฒนาเศรษฐกิจตามนโยบายอเมริกาเฟิร์ส (America First) หรือ ผลประโยชน์ของอเมริกาต้องมาก่อน ของ “โดนัลด์ ทรัมป์” ประธานาธิบดีคนใหม่ของสหรัฐอเมริกานั้น ทำให้หลายภูมิภาคของโลก รวมถึงประเทศไทยจำเป็นอย่างยิ่ง ที่จะต้องจับตามองนโยบายของผู้นำประเทศดังกล่าวเป็นพิเศษ เนื่องจากแนวคิดใหม่นั้นมีความชัดเจนในการให้ความสำคัญกับการเพิ่มอุปสงค์ภายในประเทศ เน้นการปกป้องผลประโยชน์ทางการค้าและอุตสาหกรรม อาทิ การส่งเสริมการลงทุนและการดำเนินอุตสาหกรรมระหว่างประเทศ การตั้งกำแพงภาษีนำเข้าสินค้า การลดบทบาทและความสามารถในการดำเนินอุตสาหกรรมของประเทศคู่ค้า การเปลี่ยน-ย้ายฐานผลิตทางอุตสาหกรรม ซึ่งปัจจัยเหล่านี้เป็นเหตุผลที่ทุกประเทศจะต้องปรับเปลี่ยนและกำหนดยุทธศาสตร์การดำเนินงานรูปแบบใหม่ เพื่อรับมือกับการเปลี่ยนแปลง พร้อมป้องกันผลกระทบจากเหตุการณ์ ที่ไม่อาจคาดเดาที่อาจเกิดขึ้นได้ทุกขณะในอนาคต
นายพรเทพ กล่าวเพิ่มเติมว่า สหรัฐอเมริกาถือเป็นประเทศพันธมิตรทางการดำเนินอุตสาหกรรมที่สำคัญอันดับต้นๆ ของประเทศไทยนอกเหนือจากกลุ่มประเทศอาเซียน ประเทศจีน และประเทศญี่ปุ่น ซึ่งในปี 2559 ที่ผ่านมาสหรัฐฯ มีมูลค่าการนำเข้าสินค้าจากประเทศไทยสูงถึง 3.04 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐฯ โดยอุตสาหกรรมที่นำสินค้าเข้า 5 อันดับแรก ได้แก่ เครื่องใช้ไฟฟ้าและอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ เครื่องจักรกลและชิ้นส่วน ยางและผลิตภัณฑ์ อัญมณี และชิ้นส่วนยานยนต์ ส่วนการนำเข้าสินค้าจากสหรัฐฯสู่ไทยนั้น มีมูลค่า 1.05 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐฯ เมื่อนำมาคิดเป็นสัดส่วนแล้วพบว่าไทยได้ดุลการค้าจากสหรัฐฯอยู่ ที่ 1.9 หมื่นล้านดอลลาร์ หรือ อยู่ในลำดับที่ 11 ของกลุ่มประเทศที่สหรัฐฯ เสียดุลการค้า (ที่มา International Trade center) จากแนวโน้มนโยบายของสหรัฐฯในการเข้มงวดด้านการค้าระหว่างประเทศ ทำให้ประเทศไทยน่าจะได้รับผลกระทบในเชิงบวก โดยเฉพาะอุตสาหกรรมหลายๆ สาขา อาทิ อุตสาหกรรมเครื่องปรับอากาศ อุตสาหกรรมยางล้อรถยนต์ อุตสาหกรรมเครื่องนุ่งห่ม อุตสาหกรรมส่วนประกอบคอมพิวเตอร์ และฮาร์ดดิสก์ไดรฟ์ อุตสาหกรรมยางและผลิตภัณฑ์ ขณะเดียวกันยังมีโอกาสที่จะได้รับอานิสงส์ในเรื่องของฐานการผลิตโดยเฉพาะอุตสาหกรรมที่ไทย มีห่วงโซ่อุปทานหรือคลัสเตอร์ที่แข็งแกร่ง เช่น อุตสาหกรรมเครื่องใช้ไฟฟ้าและส่วนประกอบ อุตสาหกรรมชิ้นส่วนยานยนต์ นอกจากนี้จากการที่สหรัฐถอนตัวจาก TPP ยังจะเป็นประโยชน์ต่อไทยเนื่องจากคู่แข่งทางอุตสาหกรรมในหลายประเทศจะได้เปรียบไทยในตลาดสหรัฐอเมริกาจากการเป็นสมาชิก TPP น้อยลง โดยจะช่วยให้อุตสาหกรรมในกลุ่มรถยนต์และส่วนประกอบ ยางรถยนต์ เครื่องปรับอากาศ โทรทัศน์ อัญมณีและเครื่องประดับ และกลุ่มอาหารแปรรูปเกิดความสามารถในการส่งออกและดึงดูดการลงทุ นกลับมาในไทยมากขึ้น
ด้วยสถานการณ์ดังกล่าวที่กำลังจะเกิดในปี 2560 นี้ กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม มีกลยุทธ์แนะนำที่จะช่วยให้ผู้ป ระกอบการสามารถดำเนินธุรกิจอุตสาหกรรมได้อย่างก้าวไกล ได้แก่
1. ทันตลาดโลก ผู้ประกอบการต้องไม่ยึดติดกับปร ะเทศคู่ค้าเดิมๆ แต่ต้องรู้จักการแสวงหากลุ่มประเทศตลาดเกิดใหม่ (Emerging Market) ที่มีประสิทธิภาพ อาทิ กลุ่มตะวันออกกลาง (อินเดีย อิหร่าน แอฟริกาใต้) ซึ่งนับว่ามีความน่าสนใจไม่น้อย โดยพิจารณาได้จากอัตราการเติบโต ของ GDP ในช่วง 5 ปี (2556-2560) ที่มีอัตราขยายตัวสูงขึ้นร้อยละ 3-5 รวมทั้งประเทศในกลุ่มอาเซียนและกลุ่ม CLMVที่กำลังเติบโตและพัฒนาอย่างสูง ซึ่งการได้คู่ค้าใหม่ๆ จากภูมิภาคเดียวกันยังช่วยในการขยายตลาดไปยังประเทศใกล้เคียงได้อีกด้วย
2. ทันความต้องการของตลาด ผู้ประกอบการต้องปรับตัวให้ทันกับบริบทต่างๆ ที่เปลี่ยนแปลงไป รู้ทันความต้องการของผู้บริโภคหรือกลุ่มตลาดที่ผันแปรไปตามกระแ ส โดยจะต้องเน้นการสร้างแนวคิดใหม่ และทำในสิ่งใหม่ๆ ที่ไม่มีใครเคยคิดหรือเคยทำมาก่อน รวมทั้งต้องใช้เทคโนโลยี นวัตกรรมเข้ามาเป็นกระบวนการที่สำคัญในการดำเนินงาน ซึ่งเมื่อทุกอย่างเกิดความก้าวล้ำ และทันสมัย ก็จะยิ่งเป็นปัจจัยที่จะช่วยให้เกิดความสำเร็จได้เร็วขึ้น
3. ทันข่าวทันกระแส ในการที่จะประสบความสำเร็จได้ จำเป็นต้องรอบรู้และหมั่นศึกษาในเรื่องของแนวทางและข่าวสารที่จะเสริมสร้างให้ตนเองมีศักยภาพ ทั้งยังต้องศึกษาจากกลุ่มผู้มีความรู้และประสบการณ์การทำงานซึ่งจะได้ทั้งข้อดีและข้อผิดพลาดนำ มาเป็นบทเรียนเพื่อปรับปรุงหรือ ระมัดระวังในการที่จะดำเนินธุรกิจต่อไปในอนาคต
4. ทันเพื่อนและคู่แข่ง หนึ่งในปัจจัยในการก้าวสู่ความสำเร็จคือการร่วมมือและสร้างความสัมพันธ์ในการทำธุรกิจร่วมกันในรูปแบบต่างๆ ให้เป็นเสมือนเป็นการดำเนินธุรกิจขนาดใหญ่ ทั้งการสร้างเครือข่าย การสร้างคลัสเตอร์โดยจะทำให้เกิดประโยชน์ร่วมกัน เกิดความสามารถที่สูงกว่า มีประสิทธิภาพที่มากขึ้น ทั้งยังนำพามาซึ่งความสำเร็จอย่างยั่งยืน
5. ทันบริการและโครงการส่งเสริม นโยบายในการส่งเสริมและสนับสนุน จากหน่วยงานต่าง ๆ นั้นเปรียบเสมือนเข็มทิศที่สามารถนำพาธุรกิจไปสู่จุดหมายได้ ผู้ประกอบการจึงจำเป็นที่จะต้อง ศึกษารายละเอียดจากโครงการและกิจกรรมต่าง ๆ เพื่อนำมาต่อยอด ขอรับสิทธิและใช้ประโยชน์จากการสนับสนุนเพื่อนำองค์ความรู้ที่ไ ด้รับมาปรับปรุงและพัฒนาองค์กรใ ห้มีประสิทธิภาพ ซึ่งในการส่งเสริมของ กสอ. นั้นได้จัดเตรียมงบประมาณกว่า 830 ล้านบาท เพื่อพัฒนาผู้ประกอบการกว่า 30 โครงการ ครอบคลุมผู้ประกอบการทุกประเภท ซึ่งเชื่อมั่นเป็นอย่างยิ่งว่าการส่งเสริมที่เข้มข้นเหล่านี้จะช่วยพัฒนาให้ผู้ประกอบการได้เติบโตขึ้นอีกระดับตามเป้าหมายที่ว างไว้ นายพรเทพ กล่าวปิดท้าย