สมเด็จพระสันตะปาปาฟรานซิสจะเยือนอียิปต์เพื่อเชื่อมสัมพันธ์ “คาทอลิก-มุสลิม”

สมเด็จพระสันตะปาปาฟรานซิส (แฟ้มภาพ)

Memo – วาติกันแถลงว่า สมเด็จพระสันตะปาปาฟรานซิสจะเดินทางไปยังอียิปต์ในเดือนหน้าเพื่อให้พระองค์มีโอกาสอีกครั้งในการส่งเสริมความสัมพันธ์ที่ดีระหว่างชาวคาทอลิกและชาวมุสลิม

สมเด็จพระสันตะปาปาจะเสด็จเยือนกรุงไคโรในระหว่างวันที่ 28-29 เมษายนนี้ ตามคำเชิญของประธานาธิบดี อับเดลฟัตตะห์ อัลซีซี, บิชอปแห่งคาทอลิก, พระสันตะปาปาแห่งคริสตจักรคอปติกแห่งอเล็กซานเดรีย และ อัลอัซฮัร องค์กรที่มีอำนาจสูงสุดด้านศาสนาของประเทศนี้ วาติกันกล่าวในแถลงการณ์

ประชากรคริสเตียนซึ่งส่วนใหญ่เป็นคริสตจักรคอปติกออร์ทอดอกซ์ (Coptic Orthodox Church) มีจำนวนไม่ถึงหนึ่งในสิบของประชากรอียิปต์ซึ่งเป็นชาวมุสลิมซุนนีและชาวอาหรับ ความรุนแรงอันมาจากการแบ่งแยกทางความเชื่อบางครั้งปะทุขึ้นอันเนื่องจากข้อพิพาทในประเด็นที่เกี่ยวข้องกับการเปลี่ยนศาสนาและความสัมพันธ์ระหว่างศาสนา

สมเด็จพระสันตะปาปาฟรานซิสได้ให้ความสำคัญอย่างมากในการปรับปรุงความสัมพันธ์ระหว่างศาสนานับตั้งแต่พระองค์ได้รับการเลือกตั้งให้เป็นประมุขแห่งคริสตจักรโรมันคาทอลิกในปี 2013 (พ.ศ.2556) เมื่อปีที่แล้วพระองค์ได้พบปะกับแกรนด์อีหม่ามของอัลอัซฮัร “เชค อะหมัด อัลตอยยิบ” ในกรุงวาติกัน กล่าวสำหรับเชคตอยยิบนั้นป็นที่ยอมรับอย่างกว้างขวางว่าเป็นผู้มีอำนาจตามรัฐธรรมนูญของระบอบการปกครองของซีซี ซึ่งนั่นทำให้นักการศาสนามุสลิมหลายคนได้ประณามเขา

ระหว่างสองฝ่าย “วาติกัน-อัลอัซฮัร” เคยกลายเป็นความสัมพันธ์ที่ไม่ราบรื่น หลังจากอัลอัซฮัร ศูนย์กลางมัสยิดและมหาวิทยาลัยที่เก่าแก่ 1,000 ปี ได้ตัดการติดต่อกับนครวาติกันในปี 2011 (พ.ศ.2554) หลังจากอัลอัซฮัรระบุว่า สมเด็จพระสันตะปาปาเบเนดิกต์ ผู้นำคริสจักรคาทอลิกพระองค์ก่อน ได้ดูหมิ่นต่อศาสนาอิสลามหลายครั้ง

โป๊ปเบเนดิกต์ได้ประณามตามสิ่งที่พระองค์เรียกว่า “กลยุทธ์แห่งความรุนแรงที่มีคริสเตียนเป็นเป้าหมาย” หลังจากเกิดเหตุโจมตีด้วยระเบิดนอกโบสถ์ในเมืองอเล็กซานเดรียของอียิปต์ซึ่งเป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิต 23 ราย

ในเหตุระเบิดที่มหาวิหารคอปติกที่ใหญ่ที่สุดของไคโรทำให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 25 คนและบาดเจ็บ 49 ในเดือนธันวาคมที่ผ่านมา สมเด็จพระสันตะปาปาฟรานซิสก็ได้เรียกร้องให้ยุติการ “ฆ่าล้างเผ่าพันธุ์” ชาวคริสเตียนในตะวันออกกลาง แต่พระองค์ก็กล่าวด้วยว่า เป็นการไม่ถูกต้องที่จะถือเอาอิสลามเทียบเท่าว่าเป็นศาสนาแห่งความรุนแรง

พระองค์ได้ชี้ตัวอย่างให้ชาวยุโรป โดยยกผู้ลี้ภัยมุสลิมที่ต้องหนีสงครามที่เกิดขึ้นในประเทศซีเรีย