รัสเซียเรียกทูตอิสราเอลเข้าพบ ขอคำอธิบายกรณีโจมตีทางอากาศในซีเรีย

เครื่องบินรบ เอฟ-16 ของอิสราเอล © Amir Cohen / Reuters

RT – กระทรวงการต่างประเทศรัสเซียเรียกเอกอัครราชทูตอิสราเอลประจำกรุงมอสโกเข้าพบเพื่อขอคำอธิบายเกี่ยวกับการโจมตีทางอากาศของอิสราเอลใกล้กับเมืองพัลไมรา ในซีเรีย เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา

เอกอัครราชทูตอิสราเอล นายแกรี่ โคเรน ถูกเรียกตัวจากกระทรวงการต่างประเทศของรัสเซียเมื่อวันศุกร์ (17 มี.ค.) ที่ผ่านมา หลังมีข่าวเกี่ยวกับการโจมตีทางอากาศโผล่ออกมา รองนายกรัฐมนตรีรัสเซีย นายมิคาเอล บ็อกดานอฟ กล่าวกับสื่อมวลชนในวันจันทร์นี้ (20 มี.ค.)

สถานเอกอัครราชทูตฯ งดให้ความเห็นใดเกี่ยวกับการถูกเรียกตัวของนายโคเรน แต่กระทรวงการต่างประเทศรัสเซียได้กล่าวว่าการเข้าพบของเอกอัครราชทูต “ส่วนใหญ่เป็นการสนทนาเกี่ยวกับเหตุการณ์ล่าสุดในซีเรียและรอบข้าง”

ในเช้าวันศุกร์ (17 มี.ค.) เครื่องบินของอิสราเอลโจมตีเป้าหมายหลายแห่งในซีเรีย รายงานว่าเพื่อทำลายอาวุธขั้นสูงที่ถูกเตรียมส่งให้แก่กลุ่มนักรบฮิซบุลเลาะห์แห่งเลบานอน กองกำลังป้องกันภัยทางอากาศของซีเรียยิงขีปนาวุธต่อต้านอากาศยานใส่เครื่องบินขณะที่กำลังเดินทางกลับจากภารกิจ อิสราเอลกล่าวว่าเครื่องบินรบของตนใช้ระบบป้องกันยิงสกัดไว้ได้

เมื่อวันอาทิตย์ (19 มี.ค.) ที่ผ่านมา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมอิสราเอล นายอาวิกดอร์ ลีเบอร์แมน ได้ขู่ว่าจะทำลายระบบป้องกันทางอากาศของซีเรีย หากประเทศนี้โจมตีเครื่องบินรบของอิสราเอลอีกครั้ง

“ครั้งต่อไปถ้าระบบป้องกันทางอากาศของซีเรียขัดขวางเครื่องบินของเรา เราจะทำลายมัน” อาวิกดอร์ ลีเบอร์แมน กล่าวกับสถานีวิทยุสาธารณะอิสราเอลเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา “เราจะไม่ลังเลเลย ความมั่นคงของอิสราเอลเหนือสิ่งอื่นใด จะไม่มีการประนีประนอมเลย”

อิสราเอลมีประวัติอันยาวนานในการละเมิดน่านฟ้าของซีเรีย โดยไม่เคยถูกโต้ตอบกลับซึ่งนับย้อนไปถึงก่อนปี 2011 (พ.ศ.2554) ซึ่งความขัดแย้งในปัจจุบันของประเทศนี้เริ่มต้นขึ้น เหตุการณ์ที่โด่งดังที่สุดเกิดขึ้นในปี 2007 เมื่ออิสราเอลบุกรุกน่านฟ้าซีเรียโดยอ้างว่าเพื่อทำลายเครื่องปฏิกรณ์นิวเคลียร์ที่ต้องสงสัยในจังหวัดดีรุซซูร์ (Deir ez-Zor) ของซีเรีย