สำนักงานสืบสวนแห่งชาติอินเดียกล่าวว่าจะติดต่อตำรวจสากลเพื่อขอความช่วยเหลือในการจับกุม “นายซากิร ไนค์” ที่ถูกข้อหาก่อการร้ายและฟอกเงิน
เว็บไซต์ freemalaysiatoday รายงานว่า ศาลประเทศอินเดียได้ออกหมายจับที่ไม่สามารถประกันตัวได้เป็นครั้งที่สองเพื่อจับกุมตัว นายซากิร ไนค์ นักเผยแพร่ศาสนาและนักเทศน์
เจ้าหน้าที่อินเดียต้องการสอบสวนเขาเกี่ยวเนื่องกับบทบาทที่เขาถูกกล่าวหาในคดีที่เกี่ยวข้องกับการก่อการร้ายและข้อกล่าวหาเกี่ยวกับการฟอกเงิน
ศาลอินเดียได้ออกหมายจับตามคำร้องขอโดยสำนักงานสืบสวนแห่งชาติอินเดีย (NIA) อินเดียเอ็กซ์เพรสรายงาน
เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ศาลอินเดียอีกศาลหนึ่งซึ่งเป็นศาลพิเศษด้านการป้องกันการฟอกเงินได้ออกหมายจับที่ไม่สามารถประกันตัวอีกครั้งต่อ “ซากิร ไนค์” ในคดีฟอกเงินที่ฟ้องโดยคณะกรรมการด้านการป้องกันและปรามปราม (Enforcement Directorate)
เมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมาสำนักงานสืบสวนแห่งชาติอินเดียบอกผู้พิพากษาพิเศษว่า “ซากิร ไนค์” ได้หลบหนีไปอยู่ต่างประเทศเพื่อหลีกเลี่ยงการถูกจับกุม
ปัจจุบัน “ซากิร ไนค์” อาศัยอยู่ในมาเลเซีย เขาได้รับสถานะพำนักถาวรโดยรัฐบาลมาเลเซียเมื่อห้าปีก่อน
ตามรายงานของอินเดียเอ็กซ์เพรส สำนักงานสืบสวนแห่งชาติอินเดียอ้างว่าจากการสืบสวนได้บ่งชัดว่า “ซากิร ไนค์” เคย “ส่งเสริมและช่วยเหลือ” ลูกศิษย์ของเขาผ่านการพูดในที่สาธารณะ การบรรยาย และการพูดคุย เพื่อสร้างกความขัดแย้งระหว่างชุมชนและกลุ่มศาสนาที่แตกต่างกัน
ตามรายงานของเอ็นดีทีวี (NDTV) ระบุว่า สำนักงานสืบสวนแห่งชาติอินเดียจะขอความช่วยเหลือจากตำรวจสากลเพื่อพาตัว “ซากิร ไนค์” กลับไปอินเดีย
รายงานระบุว่า หลังการโจมตีจากการก่อการร้ายในกรุงธากา เมืองหลวงบังคลาเทศเมื่อปีที่แล้วซึ่งผู้ต้องหาคนหนึ่งถูกอ้างว่าได้รับอิทธิพลจากซากิร ไนค์ กระทรวงการต่างประเทศก็ได้ยื่นฟ้องนายซากิร ไนค์ และเจ้าหน้าที่คนอื่นๆ ของมูลนิธิวิจัยอิสลาม (Islamic Research Foundation – IRF) ของเขาซึ่งอยู่ในเมืองมุมไบ
รายงานระบุว่า ซากิร ไนค์ ได้เดินทางไปต่างประเทศในช่วงเวลานั้น และตั้งแต่นั้นมาก็ไม่ได้เดินทางกลับประเทศอินเดียเพื่อหลีกเลี่ยงการจับกุมตามข้อกล่าวหาต่างๆ รวมทั้งกิจกรรมก่อการร้ายและการฟอกเงิน
เมื่อเดือนธันวาคมที่ผ่านมา รัฐบาลอินเดียได้ประกาศว่า มูลนิธิ IRF ของเขาเป็นองค์กรเครือข่ายก่อการร้าย
ซากิร ไนค์ ที่ปัจจุบันอาศัยอยู่ในประเทศมาเลเซียถูกต่อต้านโดยกลุ่มต่างๆ หลายกลุ่มที่บอกว่า คำสอนและคำพูดของเขาจะสร้างความแตกแยกในสังคมมาเลเซียที่มีผู้คนหลายเชื้อชาติ
ชาวมาเลเซียเพิ่งรู้เมื่อวันอังคาร (18 เมษายน) ว่า ซากิร ไนค์ ได้รับสถานะผู้มีถิ่นที่อยู่ถาวรในมาเลเซีย ซึ่งตามมาด้วยแรงกดดันจากกลุ่ม Hindraf ซึ่งเป็นกลุ่มด้านสิทธิของชนกลุ่มน้อยชาวอินเดียในมาเลเซีย และกลุ่มอื่นๆ ที่ได้มีการไปยื่นคำร้องต่อศาล
ชาวมาเลเซีย 19 คน ซึ่งรวมถึงประธานของ Hindraf นายพี เวธามูร์ตี้ (P Waythamoorthy) และทนายความ ซิติ กาซิม (Siti Kasim) เพิ่งยื่นฟ้องรัฐบาลในกล่าวหาว่า ปิดบังซ่อนเร้นให้ที่พักแก่ผู้กระทำผิด
พวกเขาอ้างว่า นักเทศน์ซึ่งเป็นพลเมืองของอินเดียมีความสามารถในการคุกคามความมั่นคงและความสามัคคีของชาติ
อย่างไรก็ตาม ชาวมุสลิมบางกลุ่มในมาเลเซียได้ให้การสนับสนุนเขา โดยกล่าวว่าการที่รัฐบาลมาเลเซียอนุญาตให้ ซากิร ไนค์ เป็นผู้มีถิ่นที่อยู่ถาวรนั้นเป็นสิ่งชอบธรรม