ภายหลังจาก นายปริญญา เจตาภิวัฒน์ อภิปรายจบแล้ว นายเสนีย์ มะดากะกุล สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร จังหวัดนราธิวาส พรรคเอกภาพ ได้ขออนุญาตท่านประธานลุกขึ้นแจ้งในที่ประชุมว่า ครูปรีชา แซ่ลิ่ม ได้เสียชีวิตแล้ว ตำรวจได้พบศพครูปรีชาบนเขาสภาพศพถูกแทงตายด้วยของมีคมหลายแผล ทำให้ในห้องประชุมเงียบสงัดไปครู่หนึ่ง แต่เนื่องจากญัตติครูปรีชา แซ่ลิ่ม และความไม่สงบสุขในจังหวัดชายแดนภาคใต้มีผู้เสนอญัตติหลายคนและหลายพรรคการเมือง อีกทั้งผู้ยื่นญัตติยังแสดงความจำนงที่จะอภิปรายให้ได้ทุกคน ท่านประธานในที่ประชุมจึงอนุญาตให้มีการอภิปรายต่อไป หลังจากนั้นได้มีสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรพรรคต่างๆ ขึ้นมาอภิปรายอีกหลายคน เช่น นายสมบูรณ์ สิทธิมนต์ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร จังหวัดกระบี่ พรรคเอกภาพ ดังต่อไปนี้
ประธานในที่ประชุม เชิญ คุณสมบูรณ์
นายสมบูรณ์ สิทธิมนต์ ” ท่านประธานที่เคารพ กระผมสมบูรณ์ สิทธิมนต์ พรรคเอกภาพ จากกระบี่ กระผมได้เสนอญัตติ เรื่องความไม่ปลอกภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน ในจังหวัดภาคใต้มาตั้งแต่ปี 2529 สาเหตุที่ได้เสนอเรื่องนี้ขึ้นมา เพราะผมเชื่อว่า ถ้าไม่รีบแก้ไขปัญหาเหล่านี้แล้วจะมีเหตุการณ์อย่างเช่นครูปรีชาเกิดขึ้นไม่มีวันสิ้นสุด ท่านประธานที่เคารพครับ กระผมกลับคิดเห็นแตกต่างไปจากท่านผู้อภิปรายมาแล้วบ้างบางเรื่อง กระผมถือว่าการที่ครูปรีชาถูกจับตัวครั้งนี้ เหตุที่สำคัญที่เราจำเป็นต้องมาหยิบยกมาพูดกันในวันนี้ก็คือ ด้วยเรื่องของปัญหาในส่วนของระบบราชการ กระผมเห็นว่าเป็นปัญหาที่เกิดขึ้นมานาน หลายสิบปีแล้วเรามีรัฐบาลหลายชุดที่มาจากการแต่งตั้งก็ดี จากการเลือกตั้งก็ดี ก็ไม่ได้มีการแก้ไขปัญหาแบบจริงจัง จนกระทั่งปัจจุบันรัฐบาลโดยการนำของนายกรัฐมนตรีที่มาจากการเลือกตั้ง จึงได้รัฐมนตรีที่เริ่มจะมีความจริงจังกับปัญหาบ้านเมือง อย่างไรก็ตามจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในครั้งนี้ เกิดขึ้นโดยกระทันหัน ฝ่ายตำรวจ ฝ่ายทหาร เอาเรื่องนี้เป็นเรื่องใหญ่ อย่างที่อาจารย์นิยมว่า คือ แย่งชิงผลงาน ฝ่ายตำรวจต้องการชิงผลงานว่าอันนี้จะจับตัวคนร้ายได้ แต่ฝ่ายทหารผู้นำท้องถิ่น ซึ่งเป็นผู้รับผิดชอบในพื้นที่ก็คิดว่า สามารถที่จะไปเอาเองโดยไม่ต้องเสียค่าไถ่ โดยขอแลกเปลี่ยนไม่เอาผิดกับคนร้าย เป็นข้อต่อรองกัน แต่ในเมื่อฝ่ายตำรวจบางกลุ่ม พยายามที่จะใช้ระบบแบบเผด็จการโดยใช้กำลังที่เหนือกว่า ทำให้โจรซึ่งยังเป็นเด็กวัยรุ่นเกิดความหวาดกลัวขึ้นมา เลยคิดหนีเอาตัวรอด แต่ก่อนจะหนีจีงได้ฆ่าครูปรีชาทิ้งบนเขา เพราะโจรที่จับครูปรีชานี้เป็นคนในหมู่บ้านเดียวกันกับครูปรีชา รู้จักเคยเห็นหน้ากันมาก่อน จึงจำเป็นต้องฆ่าปิดปากเสีย แต่เมื่อ 2 คนร้ายหลบหนีลงจากเขาแล้ว ได้รับความช่วยเหลือจากพรรคพวกที่อยู่ในหมู่บ้านใกล้เคียง พาขึ้นรถหนีมุ่งหน้าไปยังอำเภอสุไหงโกลก จุดหมายปลายทางคือรัฐกลันตัน ประเทศมาเลเซีย พอถึงเขตแดนระหว่างสุไหงโกลกกับฝั่งรัฐกลันตันหนึ่งในสองคนร้ายนี้ไม่กล้าข้ามแดนไปยังฝั่งมาเลเซีย เพราะเขามีคดีติดตัวในฝั่งมาเลเซีย จึงถูกจับกุมในเขตพื้นที่สุไหงโกลกตามที่ได้ทราบข่าวมาเมื่อสักครู่ใหญ่นี้เอง ด้วยเหตุนี้แหละครับที่ผมได้รับรายงานข่าวในพื้นที่ว่า สาเหตุการตายของครูปรีชานี้เกิดจากการชิงดีชิงเด่นต้องการสร้างผลงานแก่กลุ่มตัวเองตามระบบราชการที่มีอยู่ในจังหวัดชายแดนภาคใต้ขณะนี้ ฝ่ายหนึ่งต้องการใช้แผนไม้นวมพูดคุยเจรจาหาทางออกช่วยครูปรีชา แต่อีกฝ่ายหนึ่งใช้วิธีไม้แข็งข่มขู่จะให้คนร้ายเกรงกลัวอำนาจบารมีผลสุดท้ายได้ครูปรีชากลับมาในสภาพที่ไร้วิญญาณ ฝ่ายเจ้าหน้าที่บ้านเมืองญาติๆ ครูปรีชามีแต่เสียกับเสียอย่างเดียว
ท่านประธานที่เคารพ เรื่องของครูปรีชาผ่านพ้นไปแล้ว ปัญหาต่างๆ ที่จะเกิดขึ้นยังมีอีกมาก และปัญหาหลายๆ ประการอย่างที่ท่านรัฐมนตรีได้กล่าวถึงก็มีหลายเรื่องหลายประการ ผมคิดว่าถ้าตั้งใจจะแก้ปัญหาจริงๆ จะต้องมีการวางแผนแก้ทั้งระยะสั้นและระยะยาว และผมก็ได้ทราบว่าท่านรัฐมนตรีจะไปเยี่ยมครอบครัวครูปรีชาและกลุ่มสมาพันธ์ครูในจังหวัดชายแดนภาคใต้ เพื่อทราบข้อมูลและข้อเสนอแนะจากผู้ที่เกี่ยวข้องที่ได้รับผลกระทบโดยตรง เพื่อเป็นข้อมูลในการวางแผนแก้ไขและพัฒนาการเรียนการสอนในโรงเรียนในเขตพื้นที่ดังกล่าวให้เจริญก้าวหน้าต่อไป ซึ่งผมยินดีและดีใจด้วย อย่างน้อยที่สุดในเบื้องต้นจะได้ไปปลอบขวัญบรรดาครูต่างๆ ที่กำลังเสียขวัญและจะหมดกำลังใจอยู่ในขณะนี้ ครูบางคนอยู่ในอาการหวาดผวาร้องห่มร้องให้ บางคนไม่มีกำลังใจจะสอนเด็กๆ บางคนอยากขอย้ายออกจากพื้นที่ให้รู้แล้วรู้รอด ทั้งหมดนี้เป็นอาการต่างๆ ของครู ส่วนผู้ปกครองเด็กนักเรียน มีความเป็นห่วงเป็นใยในอนาคตของลูกหลานของตน กังวลถึงคุณภาพการศึกษาของลูกหลานของตน ไม่รู้ว่าจะสามารถเรียนต่อยอดสอบแข่งขันกับเด็กนักเรียนในเขตพื้นที่อื่นๆ ได้หรือไม่ เพราะเวลาเรียนที่หายไปจากการหยุดสอนของกลุ่มสมาพันธ์ครู และการทุ่มเทของครูที่ได้รับผลกระทบทางจิตใจครั้งนี้ ย่อมนำมาซึ่งความอ่อนแอในคุณภาพการศึกษาอย่างแน่นอน เรื่องนี้ถ้าจะพูดให้หมดแล้วมันยาว ลำพังจะแก้กันในสภาแห่งนี้เป็นไปไม่ได้แน่ ผมจึงอยากให้สภาแห่งนี้แต่งตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญศึกษาปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้ขึ้นมาคณะหนึ่ง ดังเช่นญัตติที่คุณเด่น โต๊ะมีนา สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร จังหวัดปัตตานีเสนอมานานแล้ว และทั้งญัตติของสมาชิกพรรคประชาธิปัตย์ ตลอดจนญัตติของท่านสมาชิกพรรคอื่นๆอีกหลายพรรคที่ได้เสนอมาในครั้งนี้ ถือว่าเป็นการตั้งคณะกรรมาธิการมาศึกษาหลายๆ ด้าน หลายๆ มุมให้ครบถ้วนสมบูรณ์ ศึกษาให้ละเอียดทั้งระยะสั้น ระยะกลาง และ ระยะยาว ในคราวเดียวกัน ผมขอเสนอความเห็นมาอย่างนี้ครับ
ท่านประธานที่เคารพ ขณะนี้เป็นคืนที่เราสูญเสียบุคคลากรด้านการศึกษาหนึ่งคนไปแล้ว ไม่ต้องสงสัยนะครับ ตายแน่ๆ แล้วครับ หากจะพูดมากไปก็ไม่สามารถเรียกครูปรีชากลับคืนขึ้นมาได้อีกแล้ว ผมจึงอยากให้ท่านเด่นหรือสมาชิกผู้ทรงเกียรติจากพรรคอื่นๆ มาร่วมแก้ไขปัญหาความไม่สงบสุขในจังหวัดชายแดนภาคใต้ในคณะกรรมาธิการที่ได้รับฉันทานุมัติให้ตั้งขึ้นในคืนนี้อย่างจริงจัง แม้จะต้องใช้ระยะเวลาในการศึกษานานเท่าใดก็ตาม ในสภาแห่งนี้ทราบว่า ในปี 2522 เคยแต่งตั้งคณะกรรมาธิการศึกษาแก้ไขปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้มาแล้ว นับเป็นเวลานานสิบกว่าปีมาแล้ว พอที่จะแก้ไขปัญหาได้บ้าง แต่ในปัจจุบันนี้สถานการณ์ได้เปลี่ยนแปลงไปบ้าง เปลี่ยนแปลงไปจากเดิมมากมาย ข้าราชการบางคนที่มารับราชการที่นี่ยังคิดอะไรที่ยังไม่ทันกับยุคสมัย แม้แต่ผมเองที่เป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ยังคิดอะไรไม่เท่าทันสถานการณ์การเปลี่ยนแปลง เราต้องยอมรับว่าปัจจุบันนี้ คนในจังหวัดชายแดนภาคใต้ได้รับการศึกษาทั้งจากภายในประเทศและต่างประเทศมีเป็นจำนวนมากขึ้นจากอดีตเมื่อสิบปีที่ผ่านมา ปัญหาปัจจุบันของจังหวัดชายแดนภาคใต้มีความสลับซับซ้อนมาก ทั้งปัญหาการศึกษา เศรษฐกิจ และการเมือง พัวพันกันจนแยกไม่ออกว่าจะแก้อะไรก่อน อะไรหลัง ดังนั้นคณะกรรมาธิการที่จะแต่งตั้งในคืนนี้ เราต้องกำหนดกรอบแก้พร้อมๆ กันหลายๆ ด้าน แม้จะต้องใช้เวลานานสักปานใดก็ตาม ทั้งนี้และทั้งนั้นเรามีความปรารถนาอย่างแรงกล้า จะไม่ให้ปัญหาความไม่สงบในจังหวัดชายแดนภาคใต้ถูกทับถมหมักหมมทำให้ยากในการแก้ไขปัญหาอีกต่อไป
ท่านประธานที่เคารพ ท่านรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยหรือรัฐบาลย่อมทราบอยู่แก่ใจแล้วนะครับว่า สถานการณ์ความไม่สงบในจังหวัดชายแดนภาคใต้ปัจจุบันนี้ มีหลายเรื่องหลายราวมาแทรกแซง ทำให้สถานการณ์มีแนวโน้มจะขยายไปสู่ความรุนแรงมากขึ้น ผมจึงอยากให้รัฐบาลและรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องได้ตระหนักให้มากๆ อย่านิ่งนอนใจ หากเวลาการบริหารราชการแผ่นดินของคณะของท่านยังอยู่อีกนาน ท่านต้องสร้างวีรกรรมสร้างผลงานให้เกิดขึ้นในยุคของท่านให้จงได้ ฯพณฯ นายกรัฐมนตรีผู้มีสโลแกนประจำตัวของท่านในถ้อยคำที่ว่า เปลี่ยนสนามรบเป็นสนามการค้าอันโด่งดังมาแล้ว สโลแกนนี้จะสามารถเปลี่ยนแปลงสนามไม่สงบสุขในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ให้เป็นสนามที่น่าอยู่มีความสุขได้หรือไม่ ผมจะคอยดูครับ ขอบคุณครับท่านประธาน ”
หลังจาก นายสมบูรณ์ สิทธิมนต์ อภิปรายจบ ประธานในที่ประชุมยังเปิดโอกาสให้สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรที่ร่วมเสนอญัตติได้อภิปรายอีกหลายท่าน แต่เนื่องจากการอภิปรายของสมาชิกในช่วงหลังๆ มักจะอภิปรายในประเด็นซ้ำๆ กัน ประธานจึงขอให้สมาชิกในที่ประชุมบางคนงดที่จะอภิปรายต่อ และเปิดโอกาสให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการชี้แจงตอบ โดยรัฐมนตรีทั้งสองท่านแสดงความเสียใจที่วงการครูได้สูญเสียแม่พิมพ์ของชาติไปหนึ่งคนในเหตุการณ์ครั้งนี้ ซึ่งมิใช่เป็นการสูญเสียครั้งแรก แต่ได้สูญเสียหลายคนแล้วในเหตุการณ์ความไม่สงบในจังหวัดชายแดนภาคใต้และจะพยายามมิให้เกิดเหตุการณ์เช่นนี้อีกในอนาคตข้างหน้า ท่านรัฐมนตรีได้อภิปรายชี้แจงแนวทางแก้ไขปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้ทั้งในระยะสั้น ระยะกลาง และ ระยะยาว จนเป็นที่พอใจของสมาชิกในที่ประชุม และยินดีสนับสนุนการตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญศึกษาปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้ โดยจะสั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวดูแลอำนวยความสะดวก คราวคณะกรรมาธิการเดินทางพบปะชาวบ้านและหาข้อมูลในพื้นที่ตลอดระยะเวลาที่ไปปฏิบัติหน้าที่ต่อไป การอภิปรายดำเนินไปด้วยความเรียบร้อยและราบรื่น เมื่อพอสมควรแก่เวลาแล้ว ประธานจึงสั่งยุติการอภิปรายเมื่อเวลาเกือบเที่ยงคืน
อดีต รมช.กระทรวงศึกษาธิการ, สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรหลายสมัยของจังหวัดนราธิวาส, ปริญญาตรี สาขานิติศาสตร์ และปริญญาโทสาขาบริหารรัฐกิจ จากมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์