อัลจาซีรา – สหรัฐฯ ประกาศดำเนินการคว่ำบาตรทางเศรษฐกิจรอบใหม่เพื่อลงโทษอิหร่าน โดยมาตรการนี้พุ่งเป้าเล่นงาน 18 องค์กรและบุคคลที่สหรัฐฯ ระบุว่าเป็นตัวละครอิหร่านที่กระทำผิดกฎหมายหรือกิจกรรมอาชญากรรมข้ามชาติ
เมื่อวันอังคาร (18 ก.ค.) โฆษกกระทรวงต่างประเทศสหรัฐฯ ได้กล่าวหาอิหร่านว่ามีการทดสอบอาวุธและพัฒนาขีปนาวุธซึ่งเป็นการ “ฝ่าฝืนโดยตรง” ต่อมติของคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ
โฆษกกระทรวงต่างประเทศสหรัฐฯ กล่าวว่า สหรัฐกำลัง “กังวลอย่างมาก” เกี่ยวกับ “กิจกรรมที่คุกคามของอิหร่านทั่วตะวันออกกลางซึ่งบ่อนทำลายเสถียรภาพ ความมั่นคง และความมั่งคั่งในภูมิภาค” รวมถึงการสนับสนุนกลุ่มติดอาวุธ ระบอบการปกครองของซีเรีย และกลุ่มกบฏฮูซีในเยเมน
ด้านรัฐสภาอิหร่านตอบโต้ด้วยการลงคะแนนเสียงให้มีการเพิ่มงบสนับสนุนโครงการขีปนาวุธ และกระทรวงต่างประเทศกล่าวว่าจะบังคับใช้มาตรการคว่ำบาตรของตนต่อชาวอเมริกันเป็นการตอบโต้
ถ้อยแถลงของกระทรวงการคลังสหรัฐฯ ระบุว่า บรรดาองค์กรและบุคคลที่ถูกคว่ำบาตรนั้น มีบทบาทสนับสนุนกองทัพอิหร่าน หรือกองกำลังพิทักษ์ปฏิวัติของอิหร่าน (IRGC) โดยการพัฒนาอากาศยานไร้คนขับ (โดรน) และยุทโธปกรณ์ทางทหาร ผลิตและบำรุงรักษาเรือ และจัดหาชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ ขณะที่คนอื่นๆ ยังได้ “บงการขโมยโปรแกรมซอฟต์แวร์ของสหรัฐฯ และชาติตะวันตก” ที่ถูกนำมาขายให้แก่รัฐบาลอิหร่าน
ข่าวดังกล่าวมีขึ้นเพียงวันเดียวหลังจากที่รัฐบาลสหรัฐฯ แถลงว่า อิหร่านปฏิบัติตามข้อตกลงด้านนิวเคลียร์ที่ได้รับการลงนามเมื่อสองปีก่อน
ทั้งนี้ข้อตกลงดังกล่าวไม่ครอบคลุมโครงการขีปนาวุธของเตหะราน
รัฐบาลสหรัฐขู่ว่าจะมีการลงโทษเพิ่มเติม และกล่าวว่า แม้อิหร่านจะได้ปฏิบัติตามข้อตกลงที่ตนได้ลงนามไว้ แต่อิหร่านก็ “ละเมิดจิตวิญญาณของข้อตกลงนี้”
ผู้สื่อข่าวอัลจาซีรารายงานจากกรุงวอชิงตันดีซีกล่าวว่า บรรดาผู้ที่อยู่ในรายชื่อถูกคว่ำบาตรรอบใหม่จะถูกระงับการทำธุรกกรรมกับระบบธนาคารอเมริกัน และสินทรัพย์ใดๆ ที่พวกเขามีในสหรัฐฯ จะถูกแช่แข็ง
“มาตรการหล่านี้ค่อนข้างเบาหากเทียบกับมาตรการคว่ำบาตรซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของข้อตกลงด้านนิวเคลียร์” ผู้สื่อข่าวอัลจาซีรากล่าว
กระทรวงต่างประเทศของอิหร่านเรียกการลงโทษใหม่นี้ว่าเป็น “การกระทำไร้ค่า” และ “ผิดกฎหมาย”