ฝ่าหมอก ชมดอกกระเจียว ณ อุทยานแห่งชาติไทรทอง จังหวัดชัยภูมิ

ภาพ : ศิริวรรณ เชื้อผู้ดี /เดอะพับลิกโพสต์

ช่วงนี้เป็นฤดูกาลชมดอกกระเจียว” ใครๆ ก็ไปชมไปหยอกดอกกระเจียวหรืออีกชื่อ คือ ”ดอกบัวสวรรค์” แล้วนำมาโพสต์แชร์ & โชว์ จนเห็นแต่ภาพดอกกระเจียวสีสันสดใส ผลิดอกบานเต็มทุ่งกว้าง เสมือนกำลังโบกมือเรียกอยู่เต็มหน้าเฟสบุ๊ค จนแทบจะอดใจไปชมดอกกระเจียวของจริงไม่ไหว

เมื่อจะได้มีโอกาสไปชมทุ่งดอกกระเจียวท่ามกลางสายหมอก ในช่วงหน้าฝน โอกาสดีแบบนี้พลาดไม่ได้เลย แม้จะฝ่าหมอก ฝ่าฝน ก็ไม่เป็นอุปสรรคสำหรับการไปชื่นชมทุ่งดอกบัวสวรรค์ผลิบานสวย ณ อุทยานแห่งชาติไทรทอง จังหวัดชัยภูมิ เมื่อวันที่ 27 – 29 กรกฎาคม 2560 ที่ผ่านมา พร้อมกับนำภาพงามๆ บรรยากาศดีๆ กลับมาฝากเพื่อนๆ ให้ความรู้สึกเหมือนกับว่า เพื่อนได้ไปเที่ยวกับเราด้วย

ภาพ : ศิริวรรณ เชื้อผู้ดี /เดอะพับลิกโพสต์

ข้อมูลเบื้องต้นของอุทยานแห่งชาติไทรทอง ทุ่งดอกกระเจียวเป็นที่เที่ยวที่สำคัญของอุทยานแห่งชาติไทรทอง อยู่ในท้องที่อำเภอหนองบัวระเหว อำเภอเทพสถิต อำเภอภักดีชุมพล และอำเภอหนองบัวแดง จังหวัดชัยภูมิ มีเนื้อที่ประมาณ 199,375 ไร่ หรือ 319 ตารางกิโลเมตร มีอาณาเขตติดต่อกับอุทยานแห่งชาติป่าหินงามและอุทยานแห่งชาติภูแลนคา เป็นผืนป่าบนเทือกเขาพังเหย ที่อุดมสมบูรณ์ไปด้วยพรรณไม้น้อยใหญ่

ในช่วงต้นฤดูฝน ผืนป่าจะเขียวชอุ่มชุ่มชื้นไปด้วยพรรณไม้น้อยใหญ่ ร่มรื่น และยังงดงามโดดเด่นด้วยดอกกระเจียวที่ผลิบานอยู่เต็มท้องทุ่ง เรียกชื่อว่า ทุ่งบัวสวรรค์ มีน้ำตกไทรทองที่สวยงาม และมีหน้าผา ให้ทุกคนท้าพิสูจน์ว่า”ใจถึงพอไหม” อยู่ในท้องที่อำเภอหนองบัวระเหว อำเภอเทพสถิต อำเภอภักดีชุมพล และอำเภอหนองบัวแดง

ภาพ : ศิริวรรณ เชื้อผู้ดี /เดอะพับลิกโพสต์

การเดินทางไปชมดอกกระเจียวผลิบานที่แสนประทับใจ

เนื่องจากมันออกจะเป็นทริปกระทันหันหน่อยๆ เลยไปกันแค่ 3 สาว และต้องขอบคุณเพื่อน เจ้าของบ้านที่ให้เราพักพิง สาวชัยภูมิ อำเภอหนองบัวระเหว“สุมาลี” พนักงานสหกรณ์ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย พาไปพักที่บ้านและน้องชายของเพื่อน “สุนทร” ช่างประจำรพ.หนองบัวระเหว ทำหน้าที่ขับรถพาทัวร์อำเภอหนองบัวระเหวแทบจะทุกมุมแบบครบถ้วน“ช้อป ชิม ชม”

ภาพ : ศิริวรรณ เชื้อผู้ดี /เดอะพับลิกโพสต์

เริ่มต้นการเดินทาง กรุงเทพ – หนองบัวระเหว ระยะทางประมาณ 360 กิโลเมตร (27 ก.ค.)

3 ทุ่ม ล้อหมุนจากเขตห้วยขวาง เราใช้เส้นทาง ถ.พหลโยธิน ไป ถ.มิตรภาพ มุ่งหน้า จ.นครราชสีมา เขื่อนลำตะคอง เพื่อไป จ. ชัยภูมิ ฝนตกตลอดทางและตลอดคืน แต่โชเฟอร์สาวของเรา ชินเส้นทาง พอตี 2 กว่าๆ ก็ถึงจุดหมายปลายทาง อำเภอหนองบัวระเหว “เข้านอน รอเวลาเช้า”

ก่อน 7 โมงเช้า สุนทร กับน้องเซฟ ลูกชายวัย 7 ขวบ ผู้บ่าวขาเลาะของเรา ขับรถพาพวกเราไป ที่อุทยานแห่งชาติไทรทอง หรือเรียกสั้นๆ ว่า อช.ไทรทอง ห่างจากหนองบัวระเหว ประมาณ 37 กิโลเมตร อากาศยามเช้าสดชื่น ได้สูดอากาศบริสุทธิ์ในพื้นที่เขียวชอุ่ม ภูเขาที่มีต้นไม้เขียวครึ้มขึ้นปกคลุม ทั้งสองข้างทาง เห็นนาข้าวเขียวๆ เป็นระยะ (ชาวบ้านทำนาปี ข้าวหอมสุรินทร์) มองเห็นหมอกปกคลุม บางเบาตามเส้นทางที่ขับรถผ่าน หนองบัวระเหว จังหวัดชัยภูมิ เป็นอำเภอที่น่าอยู่ ต้นไม้เขียวชอุ่ม ร่มรื่น สบายตา ถนนหนทางสะอาด ชาวบ้านใจดี ยิ้มแย้มกับคนต่างถิ่น ใกล้แหล่งท่องเที่ยว น้ำก็ไม่ท่วม

ภาพ : ศิริวรรณ เชื้อผู้ดี /เดอะพับลิกโพสต์

อุทยานแห่งชาติไทรทอง เป็นจุดเริ่มต้นของการเดินทาง

เราต้องหลังนั่งรถกะบะข้ามลำห้วย(รถเก๋งกับรถตู้ไม่สามารถข้ามไปได้) จากที่ทำการอุทยานฯ เพื่อขึ้นไปชมทุ่งดอกกระเจียว ค่าใช้จ่ายคนละ 60 บาท ระยะทางประมาณ 7 กิโลเมตร เป็นประสบการณ์ ที่สนุก ได้บรรยากาศเหมือนการผจญภัยเล็กๆ เราฝ่าสายหมอกและฝนปรอยๆ เพราะเราไปถึงเช้ามาก แถมมีข่าวน้ำท่วมจังหวัดชัยภูมิ แต่เป็นอำเภออื่น นักท่องเที่ยวเลยแทบไม่มี จนเราคิดว่า วันนี้คงมีนักท่องเที่ยวน้อย พอใกล้ถึงลานจอดรถ หมอกเริ่มหนาขึ้น ยิ่งทำให้การผจญภัยเล็กๆ ของเรา ตื่นเต้นยิ่งขึ้น ใกล้ๆ ลานจอดรถเป็นลานกางเต้นท์สำหรับนักท่องเที่ยวด้วย มีร้านอาหาร ร้านขายของที่ระลึก มีห้องน้ำ ห้องอาบน้ำบริการ ห้องน้ำสะอาด น้ำไหลแรง และมีเพียงพอต่อความต้องการ

ภาพ : ศิริวรรณ เชื้อผู้ดี /เดอะพับลิกโพสต์

ความตั้งใจของเราคือ จะเดินเท้าไปชมแปลงดอกบัวสวรรค์หรือดอกกระเจียว แปลงที่ 1 ซึ่งมีดอกกระเจียวจำนวนมาก งดงามและโดดเด่นที่สุด (ทั้งหมดมี 4แปลง) ระยะทางไป-กลับเกือบๆ 5 กิโลเมตร แม้การเดินทางบนพื้นราบ กลางป่า ระยะทางเกือบๆ 5 กิโลเมตร จะไม่ใช่เรื่องยาก แต่ เราไปช่วงที่มีฝนตกปรอยๆ แม้จะเป็นพื้นราบ แต่ก็มีช่วงที่สูงต่ำไม่เท่ากัน ด้วยความที่ไม่ได้เตรียมพร้อม คิดว่าคงเดินไม่ลำบากนัก เพราะเป็นพื้นราบ แต่ที่ไหนได้ พื้นดินปนทรายเมื่อโดนน้ำฝนก็เลยกลายเป็นโคลน ทั้งลื่น ทั้งเฉอะแฉะ และรองเท้าแตะที่ไม่ได้เตรียมพร้อมมาเดินเท้าแบบนี้ ทำให้เดินค่อนข้างลำบาก เนื่องจากเกร็ง กลัวว่ารองเท้าจะขาด เลยต้องใช้ความระมัดระวังมากกว่าปกติ จึงทำให้เป็นการเดินทางไปชมดอกกระเจียวครั้งนี้เหมือนจะไม่ธรรมดาสำหรับคนกรุงเทพที่ไม่ค่อยจะได้ออกกำลังกายนัก

ภาพ : ศิริวรรณ เชื้อผู้ดี /เดอะพับลิกโพสต์

แต่เพราะความสวยงามของผืนป่าสองข้างทาง พรรณไม้โบราณน้อยใหญ่ และเป็นช่วงเช้า จึงยังได้เห็นสายหมอกสีขาวปกคลุมความเขียวชอุ่มของพรรณไม้ป่า อากาศก็เย็นสบาย ช่วยทำให้รู้สึกไม่ค่อยเหนื่อยในการเดิน และยังได้เก็บภาพเส้นทางและบรรยากาศต้นไม้ป่า ต้นไม่โบราณ พรรณไม้เขียวชอุ่ม ท่ามกลางสายหมอกสีขาว สวยงาม โรแมนติค ลึกลับ น่าค้นหา เหมือนอยู่ในดินแดนแห่งความฝัน เพราะแทบไม่เจอนักท่องเที่ยวคนอื่นๆ เลย

พอเดินเริ่มเดินไปเรื่อยๆ ก็เริ่มเหนื่อย เจอทางสูงๆ ต่ำๆ เป็นโคลนเฉอะแฉะ มีความรู้สึกว่าทำไมไกลกว่า 2 กิโลครึ่ง (ตามที่ป้ายบอก) ตามข้อมูลที่ได้มา ทุ่งที่ 3 เป็นทุ่งดอกกระเจียวสีชมพู อยู่ห่างลานจอดรถประมาณ 350 เมตร ระยะทางเท่ากับผาหำหด และดอกกระเจียวในทุ่งที่ 3 มีไม่มากเหมือนทุ่งที่ 2 และทุ่งที่ 1 ซึ่งเหมาะสำหรับคนที่ไม่อยากเดินไกลไม่ว่าจะเป็นหนุ่มสาวหรือผู้สูงอายุ ทุ่งที่ 2 ระยะทาง ห่างจากทุ่ง 3 ไปอีก 800 เมตร จะมีทางแยกไปทุ่งที่ 4 ได้เช่นกัน จากทุ่งที่ 4 ก็เดินไปทุ่งที่ 2 ได้ ระยะทาง 500 เมตร แล้วทุ่งที่ 1 ซึ่งเป็นทุ่งสุดท้าย ห่างจากทุ่งที่ 2 ระยะทาง 700 เมตร และแล้วเราก็มาถึงทุ่งที่ 1

ทุ่งดอกบัวสวรรค์สวยงามโดดเด่นงดงามอยู่ตรงหน้า ผลิดอกบานสะพรั่ง ชูช่อเริงร่าเต็มทุ่งกว้าง ดอกบัวสวรรค์ สีสันจัดจ้าน แต่ละดอกหยอกล้อกับสายลมเย็นต้นฤดูฝน ที่พัดมาเรื่อยๆ ดอกพริ้วไหวเบาๆ อวดความงามเพื่อยั่วเย้าให้นักท่องเที่ยวหลงใหลชื่นชม

ภาพ : ศิริวรรณ เชื้อผู้ดี /เดอะพับลิกโพสต์

แปลงบัวสวรรค์ทุ่งที่ 1 เป็นแปลงที่มีคนมาเที่ยวชื่นชมมากที่สุด เพราะมีดอกกระเจียวผลิดอกมากที่สุด พอเห็นดอกกระเจียวของทุ่งที่ 1 อารมณ์ที่เดินมาเหนื่อยๆ ก็แทบจะหายเหนื่อยทันที เพราะดอกกระเจียวที่มองเห็นตรงหน้า สวยงามมาก มองทางไหนก็สวย มองทางไหนก็งาม สมกับชื่อทุ่งบัวสวรรค์ คุ้มค่ากับการเดินเท้าด้วยความยากลำบาก (ถ้าเป็นช่วงหลังฝนตกใหม่ๆ หรือช่วงฝนโปรยปราย) แต่ก็ไม่ใช่เรื่องลำบาก ถ้าเตรียมพร้อมมาอย่างดี เพราะเส้นทางเดินผ่านป่าที่มีต้นไม้โบราณเป็นส่วนใหญ่ จะเป็นทางราบและเป็นเส้นทางศึกษาต้นไม้พรรณไม้น้อยใหญ่ที่น่าศึกษาเป็นอย่างมาก

ภาพ : ศิริวรรณ เชื้อผู้ดี /เดอะพับลิกโพสต์

ได้ชื่นชมและถ่ายภาพดอกกระเจียวจนพอใจ และแดดแรงขึ้น นักท่องเที่ยวก็เริ่มมากขึ้น จึงต้องโบกมือลาเหล่าดอกกระเจียวแสนสวยที่เริงร่าอยู่เต็มท้องทุ่ง ..และเป็นที่แปลก ตอนขากลับ มีความรู้สึกว่าระยะทางใกล้กว่าขาไป แต่ความยากลำบากในการเดินก็ไม่ต่างกัน ระหว่างทางเดินสวนกับนักท่องเที่ยวตั้งแต่เด็กทารกที่แม่จับใส่เป้หลัง จนถึงผู้ใหญ่วัยเกษียณ ทุกคนมุ่งมั่นที่จะเดินไปชม แต่ก็ยังไม่วายถามมาว่า อีกไกลไหม? เราตอบว่า “ไกล” แต่รับรองว่าคุ้มกับการได้ชื่นชมเหล่าดอกกระเจียวแสนสวย เพราะแอบได้ยินนักท่องเที่ยวที่ถ่ายภาพอยู่ข้างๆ คุยกับเพื่อนที่มาด้วยกันว่า “ถ้าเดินมาไม่ถึง เสียดายแย่”

ต้องขอยืมประโยค”ถ้าเดินมาไม่ถึง เสียดายแย่” มาปิดทริปนี้ เพราะพวกเราคิดตรงกันว่า ถ้ามาไม่ถึงแปลงบัวสรรค์1 คงเสียดายจริงๆ ก็เธอช่างสวยงามโดดเด่น ผลิดอกบานเต็มทุ่งกว่าแปลงบัวสวรรค์อื่นๆ แถมยังชูช่อบานสะพรั่ง ยั่วเย้าให้น่าหลงใหลได้มากมายขนาดนี้ “ถ้าเดินมาไม่ถึง คงไม่ได้เห็น ก็คงเสียดายแย่”

คำแนะนำ …

การไปชมดอกกระเจียวหรือดอกบัวสวรรค์ ให้อยู่ท่ามกลางสายหมอกสีขาว ซึ่งมีความสวยงามและอากาศเย็นสบายด้วย ให้เดินทางมาชมในช่วงเช้าๆ นอกจากจะเดินสบายๆ เพราะอากาศไม่ร้อนแล้ว ยังได้เก็บภาพบรรยากาศสายหมอกและดอกกระเจียว แบบไม่ต้องแก่งแย่งกับนักท่องเที่ยวอื่นๆ และเดือนสิงหาคม ดอกกระเจียวยังผลิบานเต็มทุ่ง ให้นักท่องเที่ยวได้ชื่นชม

รีบไปชมความงามดอกบัวสวรรค์ก่อนที่จะโรย ได้ที่ อุทยานแห่งชาติไทรทอง จ.ชัยภูมิ Tel. 08 9282 3437 , 044 738 428 http://www.dnp.go.th/