ชาวซิกข์มาช่วยชาวมุสลิมโรฮิงญาที่หนีจากพม่าเข้าไปยังบังคลาเทศ

อาสาสมัครชาวซิกข์จากองค์กรการกุศลขาลสา (Khalsa Aid) กำลังให้น้ำดื่มกับเด็กผู้ลี้ภัยชาวโรฮิงญา

องค์กรการกุศลขาลสา (Khalsa Aid) กล่าวว่า อาสาสมัครจากสาขาอินเดียของตนกำลัง “ทำงานในสภาพที่ยากลำบากในพื้นที่ชายแดน” ของบังคลาเทศเพื่อให้ความช่วยเหลือชาวมุสลิมโรฮิงญา ดิอินเดียนเอ็กซ์เพรส (The Indian Express) สื่ออินเดียรายงาน

อาสาสมัครชาวซิกข์บอกว่า พวกเขาได้เริ่มแจกจ่ายอาหารและน้ำให้แก่ผู้ลี้ภัยชาวโรฮิงญาที่หนีความรุนแรงจากพม่า

องค์กรนี้ซึ่งจดทะเบียนในสหราชอาณาจักรได้ไปยังหมู่บ้านคอกซ์ บาซาร์ (Cox’s Bazar) ในเมืองเตกนาฟ (Teknaf) ซึ่งเป็นจุดข้ามแดนเข้ามาในบังกลาเทศของชาวโรฮิงญานับหมื่นคน

หมู่บ้านโรฮิงญาหลายร้อยแห่งตอนนี้ถูกทิ้งร้าง หลังจากที่ชาวบ้านหลบหนีความรุนแรงในรัฐยะไข่

อะมาร์พรีต ซิงห์ (Amarpreet Singh) กรรมการผู้จัดการของ องค์กรการกุศลขาลสา อินเดีย กล่าวกับดิอินเดียนเอ็กซ์เพรส ว่า “เราเตรียมตัวให้การช่วยเหลือผู้ลี้ภัยราว 50,000 คน แต่มีผู้ลี้ภัยอยู่ที่นี่มากถึงสามแสนคน พวกเขาอาศัยอยู่โดยไม่มีน้ำ อาหารเสื้อผ้า และที่พักอาศัย พวกเขากำลังนั่งอยู่ที่ใดก็ตามที่พวกเขาสามารถหามุมได้”

ชาวมุสลิมชาวโรฮิงยาต้องเผชิญกับการประหัตประหารอย่างกว้างขวางในประเทศพม่าที่ประชากรส่วนใหญ่นับถือศาสนาพุทธ ซึ่งเมื่อเร็วๆ นี้ความรุนแรงได้ผลักดันให้ผู้คนนับแสนต้องหาที่หลบภัยในต่างประเทศ

เซา หะเต (Zaw Htay) โฆษกรัฐบาลพม่าบอกว่า คนที่หนีออกไปจากพม่าแล้วจะไม่ได้รับอนุญาตให้กลับเข้ามาในประเทศอีก ดิอินดีเพนเดนท์ สื่ออังกฤษรายงาน

รัฐบาลกล่าวหาว่าชาวโรฮิงญาใช้ความรุนแรง แต่ผู้สื่อข่าวที่ไปเยือนพื้นที่นี้พบหลักฐานที่น่าสงสัยเกี่ยวกับการอ้างของรัฐบาลพม่าที่ระบุว่าชาวโรฮิงญาจัดฉากเผาบ้านของตัวเอง

ชาวโรฮิงญาหลายคนที่หลั่งไหลเข้ามาในค่ายผู้ลี้ภัยในบังคลาเทศกล่าวว่าทหารพม่ากราดยิงตามอำเภอใจ เผาบ้านเรือนของตน และขู่ให้ออกไปหรือไม่ก็ต้องตาย คนอื่น ๆ กล่าวว่า พวกเขาถูกโจมตีโดยกลุ่มชาวพุทธ