ชาวมุสลิมชาวโรฮิงญาหลายพันคนถูกล้อมรอบด้วยชาวพุทธที่ไม่เป็นมิตรในเมืองราธีดอง (Rathedaung) กำลังร้องขอให้หาทางออกที่ปลอดภัย
ชาวมุสลิมโรฮิงญาหลายพันคนที่อยู่ในพื้นที่ซึ่งความรุนแรงกำลังปะทุในเขตภาคตะวันตกเฉียงเหนือของพม่ากำลังร้องขอเส้นทางที่มีความปลอดภัยในการเดินทางออกจากหมู่บ้านห่างไกลสองแห่งที่ถูกปิดล้อมจากชาวพุทธที่ไม่เป็นมิตรและกำลังขาดอาหาร อัลจาซีรารายงาน
“เรากลัว” นายหม่อง หม่อง เจ้าหน้าที่โรฮิงญาประจำหมู่บ้าน อะห์ นอก พยิน (Ah Nauk Pyin) บอกกับสำนักข่าวรอยเตอร์ทางโทรศัพท์ “เราจะอดอาหารเร็ว ๆ นี้ และพวกเขากำลังขู่ว่าจะเผาบ้านของเรา”
ชาวโรฮิงญาอีกคนหนึ่งที่รอยเตอร์ติดต่อได้และขอให้ปกปิดชื่อกล่าวว่า ชาวพุทธท้องถิ่นชาวยะไข่เข้ามาในหมู่บ้านเดียวกันนี้และตะโกนว่า “จงออกไป มิฉะนั้นเราจะฆ่าพวกเจ้าทั้งหมด”
ชาวโรฮิงญาอย่างน้อย 430,000 คนที่ได้หลบหนีเข้าสู่บังคลาเทศประเทศเพื่อนบ้านเพื่อหลีกเลี่ยงสิ่งที่สหประชาชาติเรียกว่า “ตำราตัวอย่างของการฆ่าล้างเผ่าพันธ์ุ”
ชาวโรฮิงญาประมาณหนึ่งล้านคนอาศัยอยู่ในรัฐยะไข่จนกระทั่งมีการใช้ความรุนแรงครั้งล่าสุด พวกเขาส่วนใหญ่ต้องเผชิญกับข้อจำกัดที่เข้มงวดในการห้ามการเดินทางออกนอกพื้นที่ และถูกปฏิเสธการเป็นพลเมืองในประเทศที่ชนส่วนใหญ่เป็นชาวพุทธและเห็นว่าพวกเขาเป็นผู้อพยพผิดกฎหมายจากประเทศบังคลาเทศ
อย่างไรก็ตามนาย ทิน หม่อง ส่วย (Tin Maung Swe) เลขาธิการรัฐบาลท้องถิ่นรัฐยะไข่ กล่าวว่า ตนทำงานอย่างใกล้ชิดกับหน่วยงานท้องถิ่นและไม่ได้รับข้อมูลใดๆ เกี่ยวกับคำร้องขอของชาวบ้านชาวโรฮิงญาเรื่องวิงวอนขอความปลอดภัย
“ไม่มีอะไรที่ต้องกังวล” เขากล่าวเมื่อถูกถามเกี่ยวกับความตึงเครียด “ภาคใต้ของราธีดองปลอดภัยอย่างสมบูรณ์”
หมู่บ้าน อะห์ นอก พยิน (Ah Nauk Pyin) ตั้งอยู่บนคาบสมุทรที่ล้อมรอบด้วยป่าชายเลนในเมืองราธีดอง หนึ่งในสามเมืองทางตอนเหนือของรัฐยะไข่ ชาวบ้านบอกว่าพวกเขาไม่มีเรือ
สามสัปดาห์ก่อนหน้านี้ มีหมู่บ้านมุสลิม 21 แห่งในราธีดองพร้อมกับค่ายลี้ภัย 3 แห่งสำหรับชาวมุสลิมที่หลบหนีความรุนแรงทางศาสนาก่อนหน้านี้ ทว่าในตอนนี้สิบหกหมู่บ้านและค่ายทั้งสามแห่งว่างเปล่า และในหลายกรณีถูกเผาจนทำให้ชาวโรฮิงญาประมาณ 28,000 คนต้องหลบหนี
หมู่บ้านชาวโรฮิงญาที่ยังหลงเหลืออยู่ราธีดอง และประชากรราว 8,000 คน ถูกล้อมรอบด้วยชาวพุทธชาวยะไข่และเป็นกลุ่มเสี่ยง องค์กรสิทธิมนุษยชนระบุตามรายงานของอัลจาซีรา
