สว.เบอร์นี แซนเดอร์ส ชี้ ซาอุฯ “ไม่ใช่พันธมิตร” และสหรัฐฯ ควรคิดใหม่ “เข้าหา” อิหร่าน

เบอร์นี แซนเดอร์ส (ซ้ายสุด) / photo : The Intercept

ซาอุดีอาระเบีย “ไม่ใช่พันธมิตรของสหรัฐอเมริกา” ตามมุมมองของ “เบอร์นี แซนเดอร์ส” (Bernie Sanders) วุฒิสมาชิกอิสระหัวก้าวหน้า และอดีตคู่แข่งฮิลลารี คลินตัน ในฐานะผู้สมัครเป็นตัวแทนชิงตำแหน่งประธานาธิบดีของพรรคเดโมแครต

ในการสัมภาษณ์พิเศษกับสื่อดิอินเตอร์เซปท์ (The Intercept) แซนเดอร์สไม่เห็นด้วยกับมติเอกฉันท์ของสองพรรคในรัฐสภาสหรัฐฯ กรณีที่สหรัฐอเมริกาถือมาตลอดว่าซาอุดีอาระเบียเป็นเพื่อนที่ซื่อสัตย์ภักดี ผู้สนับสนุน และเป็นพันธมิตรในสงครามที่เรียกว่า “สงครามต้านก่อการร้าย”

แซนเดอร์สได้ออกมาประณามราชอาณาจักรซาอุฯ ซึ่งเพิ่งเริ่มดำเนินการปราบปรามฝ่ายตรงข้ามในประเทศรอบใหม่

“ผมคิดว่า (ประเทศซาอุดิอาระเบีย) เป็นประเทศที่ไม่เป็นประชาธิปไตยที่สนับสนุนการก่อการร้ายทั่วโลก ประเทศที่ให้เงินทุนผู้ก่อการร้าย … พวกเขาไม่ใช่พันธมิตรของสหรัฐอเมริกา”

แซนเดอร์ส ซึ่งเป็นวุฒิสมาชิกจากรัฐเวอร์มอนต์ ยังกล่าวหาว่าซาอุฯ “ต่อต้านประชาธิปไตยอย่างไม่น่าเชื่อ” ในการ “ให้เงินทุนสนับสนุนมัดรอซะห์” (madrasas โรงเรียนสอนศาสนา) และการแพร่กระจาย “หลักคำสอนวะฮาบี (Wahhabi) หัวรุนแรงในหลายประเทศทั่วโลก”

“พวกเขาปั่นให้เกิดความเกลียดชังอย่างมาก” เขากล่าวเสริม

ในเดือนมิถุนายนแซนเดอร์ได้เข้าร่วมกับ 46 วุฒิสมาชิกคนอื่นๆ ในการลงคะแนนเพื่อพยายามสกัดกั้นการขายอาวุธยุทโธปกรณ์ที่มีความแม่นยำสูงให้กับซาอุดิอาระเบีย กลุ่มพันธมิตรที่นำโดยซาอุดีอาระเบียซึ่งได้รับการสนับสนุนจากสหรัฐฯ ได้ทิ้งระเบิดโจมตีนักรบฮูซีที่ได้รับการสนับสนุนจากอิหร่านในเยเมนมานับแต่ปีพ.ศ.2558 และถูกกล่าวหาว่าฆ่าพลเรือนชาวเยเมนนับพันคน

ในการสัมภาษณ์กับสื่อดิอินเตอร์เซปท์ แซนเดอร์สเรียกร้องให้มีการ “คิดใหม่ในแง่ของนโยบายการต่างประเทศของอเมริกา … ในการเผชิญหน้าอิหร่านและซาอุดีอาระเบีย”

วุฒิสมาชิกชี้ให้เห็นว่า สหรัฐฯ ควรพิจารณาให้ความสำคัญเข้าหาอิหร่านคู่ปรปักษ์ และออกห่างจากพันธมิตรดั้งเดิมอย่างซาอุดิอารเบีย หลังจากเขาอ้างว่า ”มีบทบาทที่แย่อย่างมากในระดับสากล แต่เราได้เข้าข้างพวกเขาตลอดเวลา ครั้งแล้วครั้งเล่า ในขณะที่อิหร่าน ซึ่งเพิ่งมีการเลือกตั้งขึ้น อิหร่าน ซึ่งคนหนุ่มสาวต้องการจะเอื้อมมือออกมาทางตะวันตก, แต่เรา … ก็ยังคงกดพวกเขาลงไป”

แซนเดอร์สกล่าวว่า เขามี “ความกังวลอย่างแน่นอน … เกี่ยวกับนโยบายต่างประเทศของอิหร่าน” แต่ก็ต้องการวิธีการ “แบบไม่เอนเอียง” จากสหรัฐฯ ต่อ “ความขัดแย้งของอิหร่านกับซาอุดิอารเบีย”

ในการให้สัมภาษณ์แบบกว้างๆ ก่อนการกล่าวสุนทรพจน์เกี่ยวกับนโยบายต่างประเทศของเขาในฟุลตันรัฐมิสซูรี เมื่อเช้าวันพฤหัสบดี (21 ก.ย.) วุฒิสมาชิกอิสระกล่าวว่า สหรัฐอเมริกากำลัง “สมรู้ร่วมคิด” ในการยึดครองดินแดนปาเลสไตน์ของอิสราเอล และบอกว่า เขายินดีที่จะพิจารณาลงคะแนนเพื่อลดความช่วยเหลือของสหรัฐฯ ที่ให้กับรัฐยิว นอกจากนี้เขายังให้การสนับสนุนเบื้องต้นต่อการพบปะกันระหว่างประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ กับ คิมจองอึน แห่งเกาหลีเหนือ, เขาอธิบายการใช้โดรนโจมตีพลเรือนผู้บริสุทธิ์ว่าเป็นหนึ่งใน “สาเหตุหลัก” ของการก่อการร้าย และเรียกร้องให้มีการตรวจสอบนโยบายต่างประเทศของสหรัฐฯ อีกครั้งว่า “เป็นการกระทำจากฝ่ายเดียว” (unilateralism)

เมื่อผู้สื่อข่าวของดิอินเตอร์เซปท์ถามว่า เขาเห็นด้วยหรือไม่กับ “เจเมล ฮิลล์” (Jemele Hill) จากช่องอีเอสพีเอ็น และ “ทา เนฮิซิ โคตส์” จากแอตแลนติก ซึ่งทั้งสองเรียกทรัมป์ว่าเป็น พวกที่เชื่อในความสูงส่งของความมีผิวขาว (white supremacist) แซนเดอร์สกล่าวว่าเขาต้องการใช้คำว่า “ผู้ถือลัทธิเหยียดผิว” (racist) เพื่ออธิบายตัวตนของประธานาธิบดีคนนี้

“ผมคิดว่าโดนัลด์ ทรัมป์มีแนวโน้มที่จะแบ่งแยกเชื้อชาติอย่างรุนแรง” เขากล่าว “และผมขอบอกว่านั่นไม่ใช่เพราะคำพูดเหลวไหลและน่าสะพรึงกลัวของเขาเกี่ยวกับชาร์ลอตส์วิลล์ (เมืองที่กลุ่มชาตินิยมขวาจัดและฝ่ายต่อต้านประจันหน้าจนนำสู่การปะทะและจลาจล) แต่เนื่องจาก … เมื่อคุณพยายามที่จะทำลายความชอบธรรม (de-legitimize) … ประธานาธิบดีแอฟริกันอเมริกันคนแรกในประวัติศาสตร์ของเรา, ผมคิดว่านั่นแหละคือแบ่งแยกเชื้อชาติ เมื่อคุณโต้เถียงเกี่ยวกับเซ็นทรัลพาร์ค 5 ผมคิดว่านั่นแหละคือแบ่งแยกเชื้อชาติ – ดังนั้นผมคิดว่ามันยุติธรรมที่จะบอกว่าเขามีแนวโน้มที่จะเหยียดผิวอย่างรุนแรง”