อัลจาซีรา – กลุ่มสิทธิมนุษยชนกล่าวว่า นักวิชาการและสถาบันทางศาสนาของรัฐในซาอุดิอาระเบียปลุกระดมความเกลียดชังและการเลือกปฏิบัติต่อชนกลุ่มน้อยทางศาสนา รวมทั้ง “มุสลิมชีอะห์” ชนกลุ่มน้อยในประเทศนี้
รายงานของ “ฮิวแมนไรท์วอทช์” หรือ “HRW” ชื่อ “พวกเขาไม่ใช่พี่น้องของเรา : คำพูดแสดงความเกลียดชังโดยเจ้าหน้าที่ซาอุดิอาระเบีย” (They are not our brothers: Hate Speech by Saudi Officials) ซึ่งเผยแพร่เมื่อวันอังคาร (26 ก.ย.) ที่ผ่านมา ระบุว่า ซาอุดิอารเบียได้อนุญาตให้นักวิชาการศาสนาที่ได้รับการแต่งตั้งจากรัฐบาล กล่าวถึงกลุ่มชนกลุ่มน้อยทางศาสนาใน “แง่ร้ายหรือสร้างความเกลียดชังต่อพวกเขา ในเอกสารอย่างเป็นทางการและคำวินิจฉัยทางศาสนา” ที่มีอิทธิพลต่อการตัดสินใจของรัฐบาล
“ซาอุดิอารเบียได้ให้ความสำคัญในการส่งเสริมเกี่ยวกับการบรรยายเรื่องการปฏิรูปในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา แต่ก็ช่วยให้ผู้นำมุสลิมในเครือข่ายภาครัฐและตำราเรียนปลุกเร้าสร้างความเกลียดชังอย่างเปิดเผยต่อชนกลุ่มน้อยทางศาสนา เช่นต่อมุสลิมชีอะห์” ซาร่าห์ ลีห์ วิตสัน ผู้อำนวยการ HRW ในภูมิภาคตะวันออกกลางกล่าว
HRW เพิ่งจัดทำเอกสารเกี่ยวกับการอ้างอิงที่ไม่เหมาะสมต่อความเชื่ออื่นๆ รวมทั้ง ยูดาย คริสต์ศาสนา และมุสลิมซูฟี ในหลักสูตรการศึกษาศาสนาของประเทศ
พวกเขามักเรียกกลุ่มมุสลิมชีอะห์ว่า “รอฟีเดาะห์” (rafidha) หรือ ราวาฟิด (rawafidh) ที่มีความหมายว่า พวกนอกรีต หรือผู้ปฏิเสธ นอกจากนี้นักวิชาการทางศาสนาของรัฐบาลซึ่งทุกคนเป็นชาวซุนนี ยังประณามการคบค้าสมาคมและการแต่งงานระหว่างกัน
รายงานชี้ให้เห็นถึงเหตุการณ์หนึ่งที่สมาชิกของ “สภานักวิชาการศาสนาอาวุโสซาอุดิอาระเบีย” (Saudi Arabia’s Council of Senior Religious Scholars) ซึ่งเป็นองค์กรศาสนาสูงที่สุดของประเทศได้ตอบคำถามต่อสาธารณชนเกี่ยวกับชาวมุสลิมชีอะห์โดยกล่าวว่า “พวกเขาไม่ใช่พี่น้องของเรา … พวกเขาเป็นพี่น้องของซาตาน … ”
นักวิชาการศาสนาบางคนใช้ภาษาที่แสดงให้เห็นว่าชีอะห์เป็นส่วนหนึ่งของแผนการสมรู้ร่วมคิดเพื่อบ่อนทำลายชาติและไม่ซื่อสัตย์โดยธรรมชาติ รายงานฉบับนี้ระบุด้วยว่า รัฐบาลยังยอมให้นักการศาสนาคนอื่นๆ สามารถใช้สื่อโซเชียลมีเดียเผยแพร่สร้างความเกลียดชังอย่างแพร่หลาย