ตุรกีจับกุมเจ้าหน้าที่สถานกงสุลสหรัฐฯ สร้างความตึงเครียดระหว่างพันธมิตรนาโต

สถานกงสุลสหรัฐฯ ในกรุงอิสตันบูล (ภาพ AFP)

MEE – การจับกุมคนท้องถิ่นซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่ของสถานกงสุลสหรัฐฯ ประจำกรุงอิสตันบูล ในข้อหาจารกรรมและพยายามล้มล้างรัฐธรรมนูญของตุรกีในวันพุธที่ผ่านมา (4 ต.ค.) สร้างความวิตกว่าอาจทำให้ความสัมพันธ์ระหว่างสองประเทศนาโต้แย่ลง โดยสถานทูตสหรัฐกล่าวในวันพฤหัสบดี (5 ต.ค.) ว่า การตั้งข้อหาโดยไม่มีมูลความจริงเป็นการบ่อนทำลายความสัมพันธ์

เมื่อวันพุธที่ผ่านมา ศาลตุรกีสั่งให้จับกุม นายเมติน โตปุซ (Metin Topuz) ซึ่งทำงานในแผนกสื่อสารของสถานกงสุลสหรัฐฯ ในอิสตันบูล

นายโตปุซถูกตั้งข้อหา 3 กระทง ประกอบด้วย พยายามโค่นล้มรัฐธรรมนูญ จารกรรมข้อมูลลับทางการเมืองหรือการทหารที่อาจส่งผลเสียต่อความมั่นคงของชาติและผลประโยชน์ของชาติ และพยายามโค่นล้มรัฐบาล

ข้อหาดังกล่าวเกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในวันที่ 17 และ 25 ธันวาคม 2013 ซึ่งเป็นเหตุการณ์ที่รัฐบาลได้เรียกว่า ความพยายามรัฐประหารโดยศาล

ในวันดังกล่าวเจ้าหน้าที่ตำรวจและอัยการได้เปิดปฏิบัติการที่เกี่ยวข้องกับการฉ้อราษฎร์บังหลวงโดยเข้าตรวจค้นบ้านและสำนักงานของเจ้าหน้าที่ระดับสูงของรัฐบาล รวมถึงกลุ่มบุคคลใกล้ชิดของประธานาธิบดีตอยยิบ เออร์โดกัน

ผลพวกจากเหตุการณ์ดังกล่าวทำให้รัฐมนตรี 4 คนต้องลาออก

เออร์โดกันและรัฐบาลกล่าวว่า ข้อกล่าวหาดังกล่าวไม่มีมูลความจริง และตำรวจและอัยการเป็นสมาชิกของขบวนการฮิซเม็ต (Hizmet) ของนายเฟตฮุลเลาะห์ กูเลน (Fethullah Gulen)

กูเลน นักการศาสนาชาวตุรกีซึ่งอาศัยอยู่ในสหรัฐฯ และลูกศิษย์ของเขาถูกกล่าวหาโดยทางการตุรกีว่าอยู่เบื้องหลังความพยายามรัฐประหารเมื่อเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมาซึ่งทำให้มีผู้เสียชีวิตมากกว่า 240 ราย

การจับกุมนายโตปุซ เป็นไปตามข้อกล่าวหาที่ว่า เขาได้เคยติดต่อกับนายซาเกรียา โอซ (Zekeriya Oz) ซึ่งเป็นพนักงานอัยการคนสำคัญในการตรวจค้นเมื่อปี 2013 และกับอดีตผู้บัญชาการตำรวจในเวลานั้น นายซาเกรียาเชื่อว่าได้หลบหนีออกนอกประเทศในปี 2015 หลังจากที่มีการออกหมายจับเขา ยังไม่ทราบว่าปัจจุบันเขาอยู่ที่ใด

สถานทูตสหรัฐฯระบุในแถลงการณ์ว่า ข้อกล่าวหาที่ไร้เหตุผลดังกล่าวทำลายความเป็นหุ้นส่วนที่ยาวนานระหว่างสองประเทศ

ทั้งนี้ เอกอัครราชทูตสหรัฐฯ ประจำกรุงอังการา นายจอห์น เบส ได้ไปเข้าพบนายกรัฐมนตรีตุรกี นายบินาลี ยิดริม ในบ่ายวันพุธ โดยวัตถุประสงค์ของการพบปะไม่ได้ถูกเปิดเผย