มันขึ้นอยู่กับแต่ละรัฐในการที่จะจำกัดขอบเขตของขบวนการนี้ประธานสภาฟัตวากล่าว หลังจากมีประกาศห้ามโดยรัฐเนกรีเซมบีลัน
กัวลาลัมเปอร์ : สภาฟัตวาแห่งชาติระบุว่า แนวคิดแบบวะฮาบี “ไม่เหมาะสม” ในมาเลเซีย หนึ่งสัปดาห์หลังจากผู้มีอำนาจหน้าที่ด้านศาสนาในเนกรีเซมบีลัน ห้ามไม่ให้ถือปฏิบัติตามนิกายของอิสลามสายเคร่งครัดที่มาจากซาอุดิอารเบีย
ดร.อับดุล ชุโกรฺ ฮูซิน ประธานสภาฟัตวาแห่งชาติกล่าวว่า ผู้ปฏิบัติตามแนวทางวะฮาบีชอบประกาศว่ามุสลิมจากแนวทางอื่นๆ เป็นผู้ปฏิเสธศาสนา เพียงเพราะพวกเขาไม่ปฏิบัติตามหลักคำสอนในแนวทางวะฮาบี
ศาสนาอิสลามในมาเลเซียปฏิบัติตามนิกายซุนนี จากสำนักคิดชาฟิอี และเป็นแนวทางเดียวของศาสนาอิสลามที่ได้รับการประกาศว่าถูกต้องตามกฎหมาย ขณะที่ชีอะฮ์ ซึ่งเป็นนิกายใหญ่อันดับสองของอิสลามที่มีผู้ปฏิบัติตามจำนวนมากในอิหร่าน และอิรัก ก็ถูกประกาศว่าเป็นแนวทางนอกรีต
สัปดาห์ที่แล้ว มุฟตีในเนกรีเซมบีลันได้ประกาศว่าขบวนการนี้ (ลัทธิวะฮาบี) เป็น ที่ต้องห้าม(ฮะราม) เนื่องจากขัดกับหลักคำสอนของซุนนี ลัทธิวะฮาบี ซึ่งเป็นแนวทางอิสลามที่สำคัญในซาอุดิอารเบีย ถูกกล่าวโทษว่าทำให้เกิดกลุ่มมุสลิมหัวรุนแรงขึ้นหลายกลุ่มทั่วโลก
ดร.อับดุล ชุโกรฺ กล่าวว่า วะฮาบี “ถือว่าการกระทำที่ท่านศาสดามุฮัมมัดไม่เคยปฏิบัติเป็นสิ่งบิดอะห์ ออกนอกศาสนาอิสลาม ไม่ถูกต้องตามซุนนะห์”
เขากล่าวว่า มันขึ้นอยู่กับแต่ละรัฐในการที่จะจำกัดขอบเขตหลักคำสอนของแนวทางวะฮาบี โดยผ่านการประกาศ หรือฟัตวา
คำตัดสินของรัฐเนกรีเซมบีลัน ถูกวิจารณ์จาก ดร.ฮัมดัน มุฮัมมัด ประธานถาวรฝ่ายอุลามาของ PAS ซึ่งกล่าวว่า เจ้าหน้าที่ของรัฐขาดการไตร่ตรองในการออกคำประกาศนี้
“เราเป็นนักเทศนาธรรม ไม่ใช่ผู้พิพากษา ที่จะได้บอกว่าสิ่งนี้เป็นที่อนุญาต สิ่งนั้นไม่เป็นที่อนุญาต เราต้องมีความระมัดระวังในการตัดสิน เพราะมันเป็นสิทธิ์ของอัลลอฮ์” เขากล่าว
ผู้ปฏิบัติตามแนวทางวะฮาบี หรือเรียกอีกอย่างว่า ซาลาฟี ได้เผยแพร่หลักคำสอนของแนวทางนี้ไปทั่วโลกตั้งแต่ยุค 1970s โดยซาอุดิอารเบียให้การสนับสนุนเงินทุนในการเผยแพร่ผ่านทางหนังสือ ทุนการศึกษา และการสร้างสถาบันการศึกษาศาสนาอิสลาม