ด้วยประสบการณ์ทางด้านวิทยาศาสตร์ที่เกี่ยวข้องกับงานฮาลาลอันหลากหลายของ รศ.ดร.วินัย ดะห์ลัน นับแต่งานการตรวจวิเคราะห์ทางห้องปฏิบัติการ งานการจัดทำมาตรฐาน ไปจนถึงงานพัฒนาระบบมาตรฐานฮาลาล ส่งผลให้งานวิทยาศาสตร์ฮาลาลด้านต่าง ๆ พัฒนาขึ้นอย่างเป็นระบบผลงานที่โดดเด่นเป็นที่ยอมรับอย่างกว้างขวาง นำไปสู่ความร่วมมือและการสนับสนุนจากหน่วยงานต่าง ๆ
และหน่วยงานสำคัญที่มีบทบาทในการผลักดันงบประมาณจากการอนุมัติของคณะรัฐมนตรีเพื่อทำแผนจัดตั้งศูนย์ข้อมูลและบริการทางวิทยาศาสตร์และห้องปฏิบัติการเพื่อส่งเสริมและพัฒนาอาหารฮาลาล คณะเวชศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ก็คือ คณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (คสช.) และคณะกรรมการพัฒนาอุตสาหกรรมฮาลาล โดย นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย เป็นประธาน และนายสันติ บางอ้อ รองเลขาธิการ คสช. เป็นเลขานุการ เมื่อได้รับการอนุมัติจากคณะรัฐมนตรีในการประชุมวันที่ 13 สิงหาคม พ.ศ. 2546 นับเป็นก้าวที่สำคัญ และเป็นฐานรากสู่การยกฐานะห้องปฏิบัติการวิทยาศาสตร์ฮาลาล คณะสหเวชศาสตร์ขึ้นเป็น “ศูนย์วิทยาศาสตร์ฮาลาล” ในสังกัดจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยอย่างเป็นเอกเทศ
จากการดำเนินงานอย่างจริงจังเพื่อพัฒนางานการมาตรฐานฮาลาลสำหรับภาคอุตสาหกรรมเกิดภาคผล ใน พ.ศ. 2549 วารสาร Halal Journal ประเทศมาเลเซียประกาศให้ศูนย์วิทยาศาสตร์ฮาลาล จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ชนะเลิศรางวัล Award of Best Innovation in Halal Industry โดย รศ.ดร.วินัย ดะห์ลัน ผู้ก่อตั้งศูนย์ฯ เข้ารับโล่เกียรติยศจากนายกรัฐมนตรีมาเลเซียในงาน World Halal Forum ณ กรุงกัวลาลัมเปอร์ ประเทศมาเลเซีย ทั้งในโอกาสเดียวกันยังได้รับการประกาศยกย่องให้เป็นสถาบันด้านวิทยาศาสตร์ฮาลาลแห่งแรกของโลก และเป็นห้องปฏิบัติการวิทยาศาสตร์ฮาลาลแห่งแรกในโลก ที่ได้รับการรับรอง ISO/IEC 17025 เหตุนี้เองส่งผลให้มหาวิทยาลัยในต่างประเทศ โดยเฉพาะในประเทศแถบเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ส่งนักศึกษามาฝึกงานเป็นประจำ และจากการที่ประเทศต่างๆ กำลังตื่นตัว เพื่อเตรียมการรองรับนักท่องเที่ยวจากประเทศมุสลิมที่นับวันจะเพิ่มมากขึ้น จึงมีการส่งคณะบุคคลมาดูงาน และขอคำปรึกษาหารือ รวมทั้งแสดงความจำนงต้องการให้ทางศูนย์ฯ วางระบบเกี่ยวกับฮาลาลให้ จึงนับได้ว่าวิสัยทัศน์ของศูนย์วิทยาศาสตร์ฮาลาล จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ประสบความสำเร็จตามที่ตั้งไว้อย่างงดงาม นั่นคือ การเป็นผู้นำสาขาวิทยาศาสตร์ฮาลาลไทยระดับสากล