จุดยืนแน่วแน่! แกรนด์อิหม่ามแห่งอัลอัซฮัร อียิปต์ ปฏิเสธพบปะรองปธน.สหรัฐฯ

“เชค อะหมัด ตอยยิบ” หนึ่งผู้นำศาสนาระดับสูงแห่งประเทศอียิปต์และเป็นอิหม่ามแห่งมัสยิดอัล-อัซฮัร
“เชค อะหมัด ตอยยิบ” หนึ่งผู้นำศาสนาระดับสูงแห่งประเทศอียิปต์และเป็นอิหม่ามแห่งมัสยิดอัล-อัซฮัร

ALARABY/MEMO – “เชค อะหมัด ตอยยิบ” หนึ่งในผู้นำศาสนาระดับสูงแห่งประเทศอียิปต์และอิหม่ามแห่งมัสยิดอัล-อัซฮัร (Al-Azhar Mosque) ได้ยกเลิกการพบปะกับรองประธานาธิบดีสหรัฐฯ นายไมค์ เพนซ์ หลังประธาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ รับรองให้เยรูซาเล็มเป็นเมืองหลวงของอิสราเอล

แถลงการณ์จากมหาวิทยาลัยอัลอัซฮัร ซึ่งเป็นสถาบันศาสนาสูงสุดของมุสลิมซุนนีในอียิปต์ ระบุว่า เชค ตอยยิบ ได้เปลี่ยนการตัดสินใจจากก่อนหน้านี้ที่จะพบกับนายไมค์ เพนซ์ ซึ่งคาดว่าจะเดินทางไปยังอียิปต์และอิสราเอลในช่วงครึ่งหลังของเดือนธันวาคม

เชค ตอยยิบ ประกาศว่า “ตนขอปฏิเสธอย่างเด็ดขาดต่อคำขออย่างเป็นทางการของรองประธานาธิบดีสหรัฐฯ นายไมค์ เพนซ์ ที่จะพบปะกับตนในวันที่ 20 ธันวาคม” แถลงการณ์จากอัลอัซฮัรระบุ

สถานทูตสหรัฐฯ ได้ยื่นคำขอพบอย่างเป็นทางการเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว “และแกรนด์อิหม่ามก็ยอมรับให้เข้าพบ แต่หลังจากการตัดสินใจของชาวอเมริกันอย่างไม่เป็นธรรมและไม่ยุติธรรมต่อประเด็นกรุงเยรูซาเล็ม อิหม่ามของอัลอัซฮัรก็ประกาศว่า เขาปฏิเสธการพบปะในครั้งนี้อย่างแน่วแน่และเด็ดขาด”

“อัลอัซฮัรไม่สามารถนั่งร่วมกับคนที่บิดเบือนประวัติศาสตร์และขโมยสิทธิของประชาชน” แถลงการณ์กล่าว

“ข้าพเจ้าจะสามารถนั่งร่วมได้อย่างไรกับบรรดาผู้ที่ให้ในสิ่งที่พวกเขาไม่ได้เป็นเจ้าของต่อผู้ที่ไม่สมควร?” แถลงการณ์ระบุคำพูดของเชค ตอยยิบ

“ประธานาธิบดีสหรัฐฯ จะต้องเปลี่ยนการตัดสินใจครั้งนี้โดยทันที”

แถลงการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นหลังจากที่ตำรวจอียิปต์จับกุมผู้คนจำนวนมากในกรุงไคโรเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา (8 ธ.ค.) หลังจากที่ประชาชนได้ออกมาประท้วงต่อการตัดสินใจของนายทรัมป์

แต่ประธานาธิบดีอียิปต์ อับดุลฟัตตาห์ อัล-ซีซี ยังคงไม่ให้ความเห็นใดๆ เกี่ยวกับการรับรองของทรัมป์ให้กรุงเยรูซาเล็มว่าเป็นเมืองหลวงของอิสราเอล หลายคนเชื่อว่าความเงียบของซีซีต่อประเด็นที่มีการถกเถียงกันอย่างกว้างขวางนั้นเพราะเขามีส่วนร่วมกับทรัมป์และการยึดครองปาเลสไตน์ที่ผิดกฎหมายของอิสราเอล

จนถึงตอนนี้มีผู้คนทั่วโลกที่ได้ออกมาประท้วงการตัดใจของทรัมป์ ทั้งในปากีสถาน อัฟกานิสถาน อิหร่าน ตุรกีมาเลเซีย อินโดนีเซีย อียิปต์ และจอร์แดน รวมทั้งในกรุงลอนดอนที่ผู้คนได้ออกเดินไปตามถนนนอกสถานทูตสหรัฐฯ ในคืนวันศุกร์ที่ผ่านมา