ในหลวง เสด็จฯ พระราชทานรางวัลการทดสอบการอัญเชิญพระมหาคัมภีร์อัลกุรอาน

สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงปฏิบัติพระราชกรณียกิจพื้นที่ปัตตานี พระราชทานรางวัลทดสอบการอัญเชิญพระมหาคัมภีร์อัลกุรอานระดับภาคใต้และระดับประเทศ พร้อมพระราชทานโล่เกียรติคุณและเงินรางวัลแก่คณะกรรมการอิสลามประจำจังหวัด และอิหม่ามที่มีผลการปฏิบัติงานดีเด่น

เมื่อเวลา 18.33 น. วันที่ 9 ธันวาคม สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว มหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร เสด็จพระราชดำเนินไปทรงเป็นประธาน ในการพระราชทานรางวัลการทดสอบการอัญเชิญพระมหาคัมภีร์อัลกุรอาน ระดับภาคใต้ และระดับประเทศ ประจำปี 2560 ณ มัสยิดกลางจังหวัดปัตตานี อำเภอเมือง จังหวัดปัตตานี

การนี้ สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พระราชทานถ้วยรางวัล และโล่ที่ระลึก รวมจำนวน 36 ราย (ถ้วยรางวัล จำนวน 12 ราย โล่ที่ระลึก จำนวน 24 ราย ) นายประสาน ศรีเจริญ รองประธานผู้ทรงคุณวุฒิสำนักจุฬาราชมนตรี ขอดูอาร์ และขอพรจากพระเจ้า

สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ประทับยืน และยกพระหัตถ์ตามผู้แทนจุฬาราชมนตรี ในการนี้ ทรงมีพระราชปฏิสันถารกับผู้นำศาสนาอิสลาม ตามพระราชอัธยาศัย เสด็จฯ ออกจากห้องโถงมัสยิดกลางจังหวัดปัตตานี มายังบริเวณด้านหน้า ประทับพระราชอาสน์ ทรงฉายพระฉายาลักษณ์ร่วมกับคณะกรรมการตัดสินการทดสอบการอัญเชิญพระมหาคัมภีร์อัลกุรอานระดับภาคใต้ และระดับประเทศ ประจำปี 2560 ผู้ได้รับรางวัลการทดสอบการอัญเชิญพระมหาคัมภีร์อัลกุรอานระดับภาคใต้และระดับประเทศ ประจำปี 2560 และผู้ให้การสนับสนุนการจัดงานฯ จำนวน 2 ชุด

มัสยิดกลางจังหวัดปัตตานี อำเภอเมือง จังหวัดปัตตานี

ต่อมาเสด็จฯ ทอดพระเนตรสินค้าหนึ่งตำบลหนึ่งผลิตภัณฑ์ ทรงเยี่ยมหน่วยแพทย์พระราชทาน และทรงเยี่ยมประชาชน กาอนประทับรถยนต์พระที่นั่งไปยังที่ทำการองค์การบริหารส่วนจังหวัดปัตตานี

ที่ทำการองค์การบริหารส่วนจังหวัดปัตตานี อำเภอเมือง จังหวัดปัตตานี

กระทั่งเวลา 19.35 น. สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เสด็จฯ ถึงองค์การบริหารส่วนจังหวัดปัตตานี การนี้ พระราชทานโล่เกียรติคุณ และเงินรางวัล จำนวน 6 รางวัล แก่คณะผู้แทนคณะกรรมการอิสลามประจำจังหวัดที่มีผลปฎิบัติงานดีเด่น พระราชทานพระราชทานโล่เกียรติคุณ และเงินรางวัล จำนวน 24 ราย แก่อิหม่ามที่มีผลการปฏิบัติงานดีเด่น

จากนั้น พระราชทานรางวัล แก่ผู้แทนโรงเรียน ผู้บริหารโรงเรียน และครูนักเรียนโรงเรียนเอกชนสอนศาสนาอิสลามภาคใต้ ที่ได้รับการคัดเลือกให้ได้รับพระราชทานรางวัล ประจำปี 2559 จำนวน 27 ราย

จากนั้น สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวพระราชทานพระราชดำรัสแก่ผู้ได้รับพระราชทานรางวัลความว่า

“ข้าพเจ้ามีความยินดีที่ได้มอบโล่เกียรติคุณและรางวัลแก่คณะกรรมการอิสลามประจำจังหวัด อิหม่าม ผู้บริหารโรงเรียน ครู และนักเรียนโรงเรียนเอกชนสอนศาสนาอิสลามประจำปีนี้ ขอแสดงความชื่นชมกับทุกคน ทุกโรงเรียนที่ได้รับการยกย่องเชิดชูเกียรติ ทั้งขอชมเชยกระทรวงมหาดไทย และกระทรวงศึกษาธิการ ที่ส่งเสริมสนับสนุบงานของกรรมการอิสลามและโรงเรียนเอกชนสอนศาสนาอิสลามอย่างจริงจังและต่อเนื่องตลอดมา กรรมการอิสลามประจำจังหวัดและอิหม่ามนั้น เป็นผู้ที่ได้รับการเลือกสรรจากอิสลามเอกชนในท้องถิ่น ให้เป็นที่พึ่ง ที่ปรึกษา ทั้งในด้านศาสนา ศีลธรรม จริยธรรม และการดำเนินชีวิต ทุกท่านจึงเป็นบุคคลสำคัญและมีเกียรติในฐานะผู้จรรโลงศาสนา และส่งเสริมความเจริญมั่นคงให้แก่บุคคลและส่วนรวม

“ส่วนโรงเรียนเอกชนสอนศาสนาอิสลามในปัจจุบัน ก็มีมาตรฐานการเรียนการสอนสูง ทั้งด้านวิชาศาสนา วิชาสามัญ และวิชาชีพ ซึ่งเป็นประโยชน์ยิ่งแก่การพัฒนาเยาวชน และจะเป็นกำลังสำคัญในการสร้างสรรค์ความเจริญมั่นคงให้กับชาติบ้านเมืองในวันข้างหน้า ดังนั้นผู้นำศาสนาก็ดี ผู้บริหารโรงเรียนก็ดีที่ได้รับการยกย่องครั้งนี้ จึงควรได้ภูมิใจในผลงานที่ได้ปฏิบัติมาและเต็มใจยินดีที่จะร่วมมือสนับสนุนกันและกันให้ยิ่งใกล้ชิด เพื่อให้งานทุกอย่างในหน้าที่ ได้ดำเนินรุดหน้าไปด้วยดีและมีประสิทธิภาพ ผลที่ดีที่พึงประสงค์คือ ความเจริญมั่นคงและความร่มเย็น เป็นผาสุขจะได้บังเกิดมีแก่บุคคลท้องถิ่น และชาติบ้านเมือง ดั่งที่ทุกคนทุกฝ่ายตั้งใจปรารถนา”

จากนั้นทรงมีพระราชปฏิสันถารกับผู้เข้าเฝ้าฯ ก่อนเสด็จฯกลับ

 

ขอบคุณข่าว/ภาพจาก มติชน