หลังจากการตัดสินใจของสหรัฐฯ ในการรับรองกรุงเยรูซาเล็มเป็นเมืองหลวงของอิสราเอล ประธานาธิบดีตุรกี “ตอยยิบ เออร์โดกัน” ได้เรียกประชุมวิสามัญองค์การความร่วมมืออิสลาม หรือ “โอไอซี” ซึ่งเขาเป็นประธานในปัจจุบัน
57 ผู้นำจากทั่วโลกมุสลิมได้พบกันที่อิสตันบูลซึ่งเป็นอดีตเมืองหลวงของจักรวรรดิออตโตมัน เพื่อหารือเกี่ยวกับการตัดสินใจของสหรัฐฯ ในการรับรองเยรูซาเล็มว่าเป็นเมืองหลวงของอิสราเอล ประธานาธิบดีเวเนซุเอลา “นิโคลัส มาดูโร” ก็ได้เข้าร่วมการประชุมสุดยอดนี้ในฐานะผู้สังเกตการณ์
จากการเรียกจุดยืนของสหรัฐฯ ว่า “ผิดกฎหมาย” ไปจนการกล่าวว่าสหรัฐฯ มีส่วนทำให้ความไม่มั่นคงในตะวันออกกลางขยายลุกลามออกไปอีก
นี่เป็นบทสรุปของสิ่งที่กล่าวกันในระหว่างการประชุมสุดยอดพิเศษนี้ ขณะที่ความโกรธยังคงแผ่ขยายไปทั่วโลกมุสลิมต่อย่างก้าวของสหรัฐอเมริกาในประเด็นเยรูซาเล็ม
ปาเลสไตน์
ประธานาธิบดีปาเลสไตน์ มาห์มุด อับบาส ได้กล่าวโทษสหรัฐฯ อย่างตรงไปตรงมา และกล่าวว่า นับจากนี้ชาวอเมริกันไม่มีบทบาทในกระบวนการสันติภาพอีกต่อไป
อับบาสนั่งอยู่ข้างเออร์โดกันในการประชุมครั้งนี้ เขากล่าวว่า การประกาศของทรัมป์เป็น “อาชญากรรม” ที่คุกคามสันติภาพของโลก
นอกจากนี้เขายังกล่าวอีกว่า วอชิงตันไม่อยู่ในฐานะ “ผู้เจรจาที่เป็นธรรม” ในกระบวนการสันติภาพอีกต่อไป หลังจากกระตุ้นความโกรธทั้งจากคริสเตียนและชาวมุสลิมต่ออนาคตของกรุงเยรูซาเล็ม
ตุรกี
เออร์โดกันก็เช่นกัน เขาซัดกระหน่ำสหรัฐฯ อย่างรุนแรง และเขาพยายามที่จะทำให้โอไอซีมีเอกภาพต่อประเด็นปัญหาเยรูซาเล็ม
ปฏิกิริยาของเขาสอดคล้องกับความโกรธของชาวตุรกีทั่วประเทศ ผู้คนหลายพันคนได้ออกมาเดินขบวนต่อต้านจุดยืนของสหรัฐฯ ต่อประเด็นเยรูซาเล็ม
เขาอธิบายถึงกรุงเยรูซาเล็มซึ่งเป็นเมืองศักดิ์สิทธิ์ลำดับที่สามของชาวมุสลิม ว่าอยู่ในฐานะ “เส้นแดงของเรา” เออร์โดกันกล่าวว่า “เราจะไม่ยอมละทิ้งความต้องการของเราเพื่ออธิปไตยและเอกราชของปาเลสไตน์”
เขาเสริมว่า “อเมริกา! คุณอาจคิดว่าคุณแข็งแกร่ง คุณอาจมีอาวุธมากมาย มีอาวุธนิวเคลียร์ คุณอาจมีเครื่องบินเยอะแยะ”
“แต่สิ่งเหล่านี้ไม่ได้หมายความว่าคุณแข็งแกร่ง คุณจะแข็งแกร่งก็ต่อเมื่อคุณมีความชอบธรรมเท่านั้น”
จอร์แดน
กษัตริย์อับดุลเลาะห์แห่งจอร์แดนได้พยักหน้าอย่างขะมักเขม้นแสดงถึงการเห็นด้วยระหว่างที่เออร์โดกันแสดงความคิดเห็น ซึ่งบ่งบอกถึงความรู้สึกไม่สบายใจในหมู่พันธมิตรของสหรัฐฯ ในภูมิภาคนี้
กษัตริย์อับดุลเลาะห์กล่าวในภาษาอาหรับว่า “ความรุนแรงทั้งหมดเป็นผลมาจากความล้มเหลวในการหาแนวทางแก้ไขปัญหาอย่างสันติต่อประเด็นปัญหาของชาวปาเลสไตน์ ภูมิภาคของเราไม่มีโอกาสที่จะได้รับความสงบสุขหากปราศจากการแก้ปัญหาความขัดแย้งปาเลสไตน์ – อิสราเอล”
กษัตริย์อับดุลเลาะห์ได้พบกับกษัตริย์ซัลมานแห่งซาอุดีอาระเบียเมื่อวันพุธที่แล้ว ซึ่งผู้นำทั้งสองได้เน้นย้ำถึงความจำเป็นที่จะต้องกระชับความพยายามในหมู่ประชาคมระหว่างประเทศเพื่อปกป้องความชอบธรรมในประวัติศาสตร์ของชาวปาเลสไตน์ในกรุงเยรูซาเล็ม
อิหร่าน
ประธานาธิบดีอิหร่าน ฮัสซัน รูฮานี ได้เรียกร้องให้โอไอซีประณามอเมริกา และเรียกร้องให้โลกมุสลิมรวมตัวกันเป็นเอกภาพในการต่อต้านอิสราเอล
“สหรัฐยังไม่เคยเป็นคนกลางที่ซื่อสัตย์ และไม่มีทางจะเป็นตลอดไป” รูฮานีผู้ซึ่งมาพร้อมกับรัฐมนตรีต่างประเทศอิหร่าน จาวาด ซารีฟ กล่าวว่า “การกระทำล่าสุดของสหรัฐฯ ทำให้ชัดเจน … ว่าสหรัฐกำลังแสวงหาแต่ผลประโยชน์สูงสุดของไซออนิสต์เท่านั้น”
ก่อนหน้านี้รูฮานีเคยถูกดูแคลนโดยโอไอซีในการประชุมครั้งก่อน เมื่อการประชุมสุดยอดผ่านนโยบายประณามบทบาทของอิหร่านในตะวันออกกลาง หลังจากถูกกดดันจากซาอุฯ อย่างหนัก
อียิปต์ ซาอุฯ และยูเออี
ทั้งอียิปต์และซาอุดีอาระเบียซึ่งเพิ่งกระชับความสัมพันธ์ของตนกับสหรัฐอเมริกาได้ส่งผู้แทนระดับล่างไปประชุมสุดยอดที่กรุงอิสตันบูล
ซาอุดิอาระเบียได้ส่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกิจการศาสนาเข้าร่วมประชุมสุดยอด และแม้จะไม่ได้อยู่ในการประชุมสุดยอดครั้งนี้แต่กษัตริย์ซัลมานก็ได้สะท้อนคำเรียกร้องผ่านไปยังกรุงอิสตันบูล ให้ชาวปาเลสไตน์มีสิทธิ์เรียกกรุงเยรูซาเล็มตะวันออกในฐานะเมืองหลวงของตน
“ราชอาณาจักรเรียกร้องให้ใช้การหาทางออกทางการเมืองเพื่อแก้ไขวิกฤติในภูมิภาค ซึ่งประเด็นสำคัญที่สุดคือปัญหาปาเลสไตน์และการฟื้นฟูสิทธิอันชอบธรรมของชาวปาเลสไตน์ รวมทั้งสิทธิในการจัดตั้งรัฐเอกราชของพวกเขาโดยมีเยรูซาเล็มตะวันออกเป็นเมืองหลวงของตน” กษัตริย์ซัลมานกล่าว
อียิปต์ก็เห็นด้วยตามที่ประชุม และส่งรัฐมนตรีต่างประเทศของตนเข้าร่วม ในขณะที่ยูเออีก็ส่งตัวแทนจากกระทรวงต่างประเทศของตนเข้าร่วม
เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมาไคโรได้รับการต้อนรับจากรัสเซียในระหว่างการประชุมสภาความมั่นคงแห่งสหประชาชาติเพื่อหารือเกี่ยวกับสันติภาพปาเลสไตน์
…
Source : www.middleeasteye.net