มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีชเวนนีแห่งแอฟริกาใต้ (Tshwane University of Technology – TUT) ได้อนุมัติอย่างเป็นทางการต่อการเรียกร้องของชาวเลสไตน์ที่ให้คว่ำบาตรทางวิชาการต่ออิสราเอล และกำหนดห้ามมีส่วนเกี่ยวข้องกับอิสราเอลและสถาบันของอิสราเอล
มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีชเวนนี เป็นสถาบันการศึกษาที่ใหญ่ที่สุดในแอฟริกาใต้ โดยมีนักศึกษาประมาณ 60,000 คน
เมืองชเวนี (Tshwane) หรือชื่อเดิม กรุงพริทอเรีย (Pretoria) ตั้งอยู่เขตในเขตจังหวัดกาวเต็ง (Gauteng) ซึ่งเป็นเมืองหลวงศูนย์กลางการบริหารประเทศ และศูนย์การศึกษา ซึ่งต่อมารัฐบาลของแอฟริกาใต้เสนอให้มีการเปลี่ยนชื่อเมืองเสียใหม่
มิดเดิลอีสต์มอนิเตอร์รายงานว่า ในแถลงการณ์ที่ออกเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว เจ้าหน้าที่ได้เปิดเผยว่า ในการประชุมสภามหาวิทยาลัยเมื่อวันที่ 24 พฤศจิกายน ได้มีการอนุมัติตัดสัมพันธ์อย่างเป็นทางการกับอิสราเอล
“ในฐานะที่เป็นมหาวิทยาลัยก้าวหน้าในระบอบประชาธิปไตยในแอฟริกาใต้ เราต้องการยืนยันว่า TUT จะไม่ลงนามในข้อตกลงใดๆ หรือทำข้อตกลงทางวิทยาศาสตร์กับองค์กรหรือสถาบันใดๆ ของอิสราเอลจนกว่าถึงเวลาที่อิสราเอลจะยุติการยึดครองดินแดนปาเลสไตน์อย่างผิดกฎหมาย” แถลงการณ์ระบุ
มหาวิทยาลัยจะไม่อยู่นิ่งและยอมรับการละเมิดของรัฐบาลอิสราเอล ในการจำกัดการเคลื่อนไหวของเด็กๆ และเยาวชนปาเลสไตน์ในดินแดนของตนเอง และจำกัดความสามารถในการเข้าถึงการศึกษาโดยการทำลายโรงเรียน
แถลงการณ์ยังกล่าวเพิ่มเติมอีกว่า “TUT สนับสนุนการเรียกร้องของหน่วยงานต่างๆ รวมทั้งหน่วยงานของนักเรียนและองค์กรหัวก้าวหน้าอื่นๆ เพื่อคว่ำบาตรอิสราเอลและสถาบันต่างๆ ของอิสราเอล ตราบเท่าที่อิสราเอลยังคงละเมิดสิทธิมนุษยชนขั้นพื้นฐานของชาวปาเลสไตน์รวมทั้งกฎหมายระหว่างประเทศ”
โฆษกของ TUT ศาสตราจารย์ราซิกัน มหาราจ (Rasigan Maharajh) ได้กล่าวกับสำนักข่าวแอฟริกันต่อประเด็นนี้ว่า “ในฐานะ ‘มหาวิทยาลัยของประชาชน’ TUT ได้เข้าร่วมกับมหาวิทยาลัยโจฮันเนสเบิร์ก (Johannesburg) ชาวปาเลสไตน์หัวก้าวหน้า และนักวิชาการอิสราเอล เพื่อส่งเสริมให้ประชาคมระหว่างประเทศมีการคว่ำบาตรให้กว้างขวางขึ้นและต่อเนื่องต่อสถาบันการศึกษาทั้งหมดในอิสราเอล เพื่อเป็นส่วนหนึ่งในการต่อสู้เพื่อยุติการยึดครองและนโยบายแบ่งแยกสีผิว (apartheid) ของอิสราเอล”
ในเอกสารข่าวของ “บีดีเอส แอฟริกาใต้” (BDS South Africa) ได้อธิบายถึงการตัดสินใจของมหาวิทยาลัยว่าเป็น “ชัยชนะที่สำคัญ” และได้ยกคำพูดของ กูรู ซาบา (Gugu Xaba) ประธาน Institutional Forum ของ TUT ที่แสดงความยินดีต่อข่าวนี้ โดยเขาได้กล่าวว่า
“”TUT กำลังเข้าร่วมงานกับสถาบันอื่นๆ ที่เคารพสิทธิมนุษยชน ซึ่งรวมถึงเพื่อนร่วมงานของเราที่มหาวิทยาลัยโจฮันเนสเบิร์กซึ่งยุติความสัมพันธ์กับอิสราเอลในปี 2011 (พ.ศ.2554) นี่เป็นชัยชนะครั้งสำคัญสำหรับองค์กรบีดีเอส ซึ่งเป็นแรงผลักดันที่น่ายำเกรงเพื่อปาเลสไตน์ ! เรายินดีกับทุกคนที่เกี่ยวข้องในการตัดสินใจนี้ ”
กล่าวสำหรับ ขบวนการบีดีเอส (Boycott, Divestment and Sanctions – BDS) คือ กลุ่มเคลื่อนไหวเพื่อรณรงค์การคว่ำบาตร (Boycott) ลดการลงทุน (Divestment) และลงโทษ (Sanctions) ต่อประเทศอิสราเอล จนกว่าอิสราเอลจะยอมปฏิบัติตามกฎหมายระหว่างประเทศและยอมรับสิทธิของชาวปาเลสไตน์ กลุ่มเคลื่อนไหว BDS ถูกริเริ่มโดยกลุ่มประชาชนชาวปาเลสไตน์ในปี ค.ศ. 2005 และได้ถูกก่อตั้งอย่างเป็นทางการในปี ค.ศ. 2007 โดยมีคณะกรรมการแห่งชาติปาเลสไตน์ของ BDS (Palestinian BDS National Committee) เป็นผู้ประสานงานหลัก มีสาขาในหลายประเทศทั่วโลกรวมถึงประเทศไทย