ตุรกีกล่าวว่า ผู้ให้การสนับสนุนกลุ่มติดอาวุธชาวเคิร์ด จะตกเป็น “เป้าหมาย” ไม่ว่าหน้าไหนก็ตาม คำเตือนนี้เสมือนจะสร้างความขุ่นเคืองให้สหรัฐฯ ที่ร่วมมือกับกลุ่มติดอาวุธชาวเคิร์ดในพื้นที่ทางตอนเหนือของซีเรีย
ความเห็นนี้ของ บาคิร์ บอซแดก รองนายกรัฐมนตรีตุรกี มีขึ้นเมื่อวันพฤหัสบดี (26 ม.ค.) หลังจากตุรกีขู่จะโจมตีเมืองมันบิจ (Manbij) ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของปฏิบัติการข้ามพรมแดนในพื้นที่อัฟริน (Afrin) ซึ่งควบคุมโดยนักรบชาวเคิร์ด อัลจาซีร่า รายงาน
สหรัฐฯ มีทหารราว 2,000 คนในมันบิจซึ่งอยู่ห่างจากอัฟรินไปทางตะวันออกประมาณ 100 กิโลเมตร โดยทหารสหรัฐทำงานร่วมกับนักรบติดอาวุธ YPG ของชาวเคิร์ดในการต่อสู้กับไอซิส
หากสหรัฐต้องการ “หลีกเลี่ยงการเผชิญหน้ากับตุรกี – ซึ่งทั้งสองฝ่ายหรือตุรกีไม่ต้องการ – หนทางที่ชัดเจน ก็คือ “พวกเขาต้องยุติการสนับสนุนที่มีให้ผู้ก่อการร้าย” บอซแดก กล่าวกับ “อะฮาเบอร์” สื่อตุรกี
“บรรดาผู้ที่สนับสนุนองค์กรก่อการร้ายจะกลายเป็นเป้าหมายในการรบครั้งนี้ สหรัฐฯ จำเป็นต้องทบทวนบทบาททางทหารของตนและองค์ประกอบต่างๆ ในการสนับสนุนผู้ก่อการร้ายบนภาคสนามเพื่อที่จะหลีกเลี่ยงการเผชิญหน้ากับตุรกี” เขากล่าว
ยังไม่มีปฏิกิริยาใดๆ จากสหรัฐฯ ต่อความเห็นนี้ของรองนายกรัฐมนตรีตุรกี
ศูนย์ปฏิบัติการทางทหารของสหรัฐฯ ในมันบิจกล่าวว่า ทหารอเมริกันมีสิทธิที่จะป้องกันตัวเองจากการโจมตีใดๆ
โฆษกศูนย์ปฏิบัติการทางทหารพันธมิตรสหรัฐฯ พันเอกไรอัน ดิลลอน กล่าวว่า กองกำลังพันธมิตรที่อยู่ในพื้นที่นั้นมีสิทธิที่จะปกป้องตัวเองและจะทำเช่นนั้นในกรณีที่จำเป็น
ตุรกีเปิดปฏิบัติการทางทหารโจมตีกลุ่ม YPG ในอัฟริน เมื่อสัปดาห์ก่อน กองทัพกล่าวในแถลงการณ์ว่า ได้สังหารนักรบ YPG ของเคิร์ดในภาคเหนือซีเรียมากกว่า 300 คนแล้วตั้งแต่เริ่มปฏิบัติการ
ตุรกีถือว่า YPG ซึ่งได้รับการฝึกอาวุธและสนับสนุนโดยสหรัฐฯ เพื่อต่อสู้กับไอซิส เป็นส่วนหนึ่งของพรรคแรงงานเคอร์ดิสถาน (PKK) ที่ผิดกฎหมายซึ่งได้ต่อสู้กับทางการตุรกีมานานหลายสิบปี
เลขาธิการใหญ่นาโต เจนส์ สโตลเทนเบิร์ก (Jens Stoltenberg) ได้ปกป้องปฏิบัติการทางทหารของตุรกี แต่ก็ได้ย้ำเตือนให้รอบคอบ
“ตุรกีเป็นประเทศในกลุ่มนาโต้ที่ได้รับผลกระทบจากการก่อการร้ายมากที่สุด” สโตลเทนเบิร์กกล่าวในแถลงการณ์เมื่อวันพฤหัสบดี
“ทุกประเทศมีสิทธิที่จะปกป้องตัวเอง แต่เรื่องนี้ต้องทำอย่างสมควรแก่เหตุและรอบคอบ”
ในขณะเดียวกันฝ่ายบริหารชาวเคิร์ดในอัฟริน ได้เรียกร้องให้รัฐบาลซีเรียเข้ามาปกป้องภูมิภาคนี้จากการรุกรานของตุรกี
“เราเรียกร้องให้รัฐบาลซีเรียดำเนินการตามข้อบังคับอธิปไตยของตนต่ออาฟริน และปกป้องพรมแดนของตนจากการโจมตีของตุรกีผู้ยึดครอง … และใช้กองกำลังติดอาวุธของซีเรียเพื่อรักษาพรมแดนในพื้นที่อัฟริน” ฝ่ายบริหารชาวเคิร์ดในอัฟรินกล่าวในแถลงการณ์ผ่านเว็บไซต์
ผู้สังเกตการณ์กล่าวว่า ปฏิบัติการของตุรกีได้เพิ่มความซับซ้อนมากยิ่งขึ้นต่อสงครามเจ็ดปีของซีเรียซึ่งได้คร่าชีวิตผู้คนนับแสนคน และประชาชนหลายล้านคนต้องหนีออกจากประเทศ