
เมื่อวันอาทิตย์ (4 ก.พ.61) ที่ผ่านมา ทางการอิสราเอลได้ทำลายห้องเรียน 2 ห้องของสหภาพยุโรปซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของโรงเรียนสำหรับชาวเบดูอินในเขตเวสต์แบงก์ที่ถูกยึดครอง โดยพวกเขากล่าวว่า ห้องเรียนเหล่านี้ถูกสร้างขึ้นอย่างผิดกฎหมาย อินดีเพนเดนท์ สื่ออังกฤษรายงาน
เจ้าหน้าที่ของอิสราเอลกล่าวว่า การรื้อถอนดังกล่าวดำเนินการตามคำตัดสินของศาลต่ออาคารผิดกฎหมายของชาวปาเลสไตน์ ขณะที่ชาวปาเลสไตน์ได้ประณามการดำเนินการนี้ของอิสราเอล โดยมองว่านี่เป็นส่วนหนึ่งของแผนการที่จะยึดที่ดินเพื่อขยายการตั้งถิ่นฐานของชาวยิว
ชาวปาเลสไตน์ในหมู่บ้านอะบูนูวา (Abu Nuwar) กล่าวว่า ทั้งสองห้องเรียนซึ่งสร้างแยกออกจากโรงเรียนบนยอดเขาถูกทำลายในตอนเช้าโดยคนทำงานขณะที่เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยของอิสราเอลปิดพื้นที่ดังกล่าว
ชาวเบดูอินนับหมื่นอาศัยอยู่ในหมู่บ้านในทะเลทรายทางภาคใต้ของอิสราเอลและในเวสต์แบงก์
เจ้าหน้าที่ของปาเลสไตน์กล่าวว่า นี่เป็นครั้งที่ห้าที่โรงเรียนถูกรื้อถอนตั้งแต่ปี พ.ศ. 2559 ชาวบ้านและองค์กรที่ไม่ใช่ภาครัฐของสหภาพยุโรปได้ช่วยกันสร้างใหม่ทุกครั้ง
ชาดี อุสมาน หัวหน้าฝ่ายสื่อสารองค์กรของสำนักงานสหภาพยุโรปในกรุงเยรูซาเล็มกล่าวว่า “สหภาพยุโรปได้เรียกร้องอิสราเอลมากกว่าหนึ่งครั้ง เพื่อไม่ให้รื้อถอนโครงการในกองทุนของสหภาพยุโรป ซึ่งมุ่งเป้าไปที่การปรับปรุงสภาพความเป็นอยู่ของชาวปาเลสไตน์”
ซาเอ็ด อีรากัต เจ้าหน้าที่อาวุโสของปาเลสไตน์ เขียนในทวิตเตอร์ ว่า การรื้อถอนคือ “การไม่แยแสอย่างต่อเนื่องของอิสราเอลต่อกฎหมายระหว่างประเทศ และมีเป้าหมายเพียงเพื่อทำลายเสรีภาพและชีวิตของปาเลสไตน์”