ผู้นำอิหร่านกร้าว! หมดยุค “โจมตีแล้วหนี” ต่อไปนี้การโจมตีฐานทัพอิหร่านจะถูกตอบโต้อย่างรุนแรง

แฟ้มภาพ : กองกำลังพิทักษ์การปฏิวัติอิหร่านในระหว่างเดินพาเหรดทางทหารเมื่อวันที่ 22 กันยายน 2014 © Morteza Nikoubazl / Global Look Press

ต่อไปนี้ การโจมตีใดๆ ต่อฐานทางทหารของอิหร่านจะต้องพบกับการตอบโต้ทางทหารที่ “รุนแรง” ผู้นำสูงสุดอิหร่าน อายะตุลเลาะห์ อะลี คาเมเนอี ประกาศกร้าว นอกจากนี้เขายังกล่าวหาว่า วอชิงตันมีความขัดแย้งกับอิหร่านแต่ยืมมือผู้อื่นเล่นงาน 

คำพูดของเขาเกิดขึ้นหลังจากมีข่าวฐานทัพของอิหร่านในซีเรียถูกโจมตีโดยขีปนาวุธ

“ยุคสมัยของการโจมตีแล้ววิ่งหนีได้ผ่านพ้นไปแล้ว”  อายะตุลเลาะห์ คาเมเนอี กล่าวในการพบปะกับกลุ่มแรงงานชาวอิหร่านในวันจันทร์ (30 เม.ย.) จากนั้นเขาเตือนว่า ถ้าสหรัฐฯ หรือพันธมิตรตัดสินใจที่จะโจมตีสาธารณรัฐอิสลามหรือฐานทางทหารของตน การกระทำของพวกเขาจะถูกตอบโต้อย่างรุนแรง อาร์ทีรายงาน

ถ้อยแถลงของเขาเกิดขึ้นเพียงไม่กี่ชั่วโมงคล้อยหลังรายงานเกี่ยวกับการโจมตีฐานทัพของซีเรียซึ่งตั้งอยู่ชานเมืองในจังหวัดฮามาและอาเลปโป สื่อของรัฐซีเรียกล่าวว่า ฐานทัพถูกโจมตีโดยขีปนาวุธของศัตรูโดยไม่ระบุรายละเอียด

ขณะเดียวกันอิหร่านได้ปฏิเสธรายงานเกี่ยวกับที่ปรึกษาทางทหารของตนว่าได้รับผลกระทบจากการโจมตีครั้งนี้ โดยอิหร่านระบุว่าไม่มีที่ปรึกษาของอิหร่านถูกสังหารหรือได้รับบาดเจ็บในเหตุการณ์ดังกล่าว เมห์นิวส์ สื่ออิหร่านรายงาน นอกจากนี้ยังระบุด้วยว่า รายงานเกี่ยวกับการบาดเจ็บล้มตายของชาวอิหร่านในซีเรียนั้นเป็นข่าว “เท็จ”

ผู้บัญชาการกองกำลัง “ฟาตีมียูน” (Fatemiyoun Division) นักรบมุสลิมชีอะห์ที่สนับสนุนรัฐบาลซีเรียซึ่งอิหร่านหนุนหลัง ยังบอกกับเมห์นิวส์ด้วยว่า ฐานทางทหารของตนที่ตั้งอยู่ใกล้อาเลปโปไม่ได้ถูกโจมตีแต่อย่างใด

ก่อนหน้านี้ สกายนิวส์อาระเบีย (Sky News Arabia) รายงานโดยอ้างแหล่งข่าวจากฝ่ายต่อต้านรัฐบาลว่า อาจมีคนถูกสังหารกว่า 40 คนจากการโจมตีดังกล่าว  สื่อบางส่วนของสหรัฐฯ และอังกฤษยังกล่าวอีกว่ามีชาวอิรักหลายสิบคนถูกระบุว่าเป็นส่วนหนึ่งจากผู้เสียชีวิตในเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา

วอชิงตันไม่ต้องการประมือกับอิหร่านและต้องการให้พันธมิตรในตะวันออกกลางแบกรับภาระนี้แทน ผู้นำอิหร่านกล่าวในสุนทรพจน์ในวันจันทร์นี้ จากนั้นเขาก็กล่าวหาสหรัฐว่า “พยายามกระตุ้น … บางประเทศ” ในภูมิภาคโดยเฉพาะซาอุดิอารเบียในการเผชิญหน้ากับอิหร่าน

“ชาวอเมริกันไม่ต้องการแบกรับค่าใช้จ่ายในการเผชิญหน้ากับสาธารณรัฐอิสลาม” เขากล่าวเสริมอีกว่าวอชิงตันต้องการ “มุสลิมในการต่อสู้กับชาวมุสลิม” คาเมเนอีกล่าวว่า “ด้วยเหตุผลอย่างนี้” สหรัฐฯ ควรออกไปจากตะวันออกกลาง

“สิ่งที่วอชิงตันทำได้ดีที่สุดคือก่อให้เกิดความไม่มั่นคง” คาเมเนอีกล่าวตามรายงานของเมห์นิวส์ “ทุกแห่งที่พวกเขา [สหรัฐ] ได้ย่างเท้าเข้าไป พวกเขา … ก็นำความโชคร้ายสู่ประชาชน” คาเมเนอีกล่าว “นั่นเป็นเหตุผลที่สหรัฐ “ต้องออกไป ไม่ใช่อิหร่าน” เขากล่าวต่อว่า เอเชียตะวันตกเป็นบ้านของชาวอิหร่าน ในขณะที่สหรัฐฯ เป็น “คนนอกที่มีเป้าหมายมุ่งร้าย พยายามปลุกปั่นสร้างความโกลาหล” ในภูมิภาคนี้