เอกสารลับฉบับล่าสุดที่หลุดออกมา เผยให้เป็นแผนการร้ายกาจของรัฐมนตรีต่างประเทศซาอุดิอาระเบียที่สั่งการเอกอัครราชทูตของตนประจำเลบานอน ให้แทรกแซงการเลือกตั้งสภานิติบัญญัติของเลบานอน บ่อนทำลายขบวนการฮิซบุลเลาะห์ และสร้างความแตกแยกระหว่างประชาชน
สถานีโทรทัศน์อัลมานาร์ (al-Manar) ของเลบานอนซึ่งเป็นสื่อในเครือข่าย “ฮิซบุลเลาะห์” ขบวนการต่อต้านอิสราเอล ได้เผยแพร่เอกสารลับที่รมต.ต่างประเทศซาอุดิอาระเบีย “นายอาเดล อัลจูเบร์” ได้เขียนถึงเอกอัครราชทูตซาอุฯ ประจำเลบานอน “นายวาลีด อัลบุคอรี” เพื่อมอบหมายภารกิจให้แก่เขา
ตามข้อมูลในจดหมายนี้ รมต.ต่างประเทศซาอุฯ ได้สั่งการให้เอกอัครราชทูตของตนประจำเลบานอน สนับสนุนอย่างแข็งขันต่อ 2 พรรคการเมืองของเลบานอน ได้แก่ พรรคฟิวเจอร์มูฟเมนต์ (Future Movement – FM) หรือชื่อในภาษาอาหรับ “ตัยยาร์ อัลมุสตักบัล” ที่มีความหมายว่า “กระแสแห่งอนาคต” ซึ่งนำโดย “นายซะอัด ฮารีรี” นายกรัฐมนตรีเลบานอน และ “พรรคเลบานิส ฟอร์ซ” (Lebanese Forces) เพื่อสร้างกลไกที่มุ่งทำให้ผู้ลี้ภัยชาวซีเรียยังคงอยู่ในเลบานอน
เอกสารดังกล่าวยังสั่งการให้สร้างแรงกดดันต่อขบวนการฮิซบุลเลาะห์ในพื้นที่บากาอ์วัลเลย์ (Beqaa Valley) ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของความพยายามในการเปลี่ยนสัดส่วนประชากรในภูมิภาคที่มุสลิมชีอะห์อาศัยอยู่ในประเทศเลบานอน
รมต.ต่างประเทศซาอุฯ ยังได้กำชับเอกอัครราชทูตของตนไม่ให้ละทิ้งความพยายามในการบ่อนทำลายความนิยมของฮิซบุลเลาะห์ในชนชั้นต่างๆ ของสังคมเลบานอน และให้ปลุกระดมประชาชนให้ต่อต้านการปรากฏตัวของนักรบชาวเลบานอนในประเทศซีเรียเพื่อนบ้าน
“นายอาเดล อัลจูเบร์” ยังเน้นย้ำถึงความจำเป็นในการก่อตั้งค่ายลี้ภัยสำหรับคริสเตียนเลบานอน คล้ายคลึงกับที่ตั้งขึ้นในตุรกีสำหรับผู้ลี้ภัยชาวซีเรีย และที่จัดตั้งขึ้นในซีเรียสำหรับผู้ลี้ภัยชาวปาเลสไตน์ เพื่อจะได้เรียกร้องเงินทุนสนับุสนุนจากนานาชาติให้กับพวกเขา และปูทางให้นายซามีร์ เจียเจีย (Samir Geagea) ประธานพรรคเลบานิส ฟอร์ซ เพื่อก้าวไปสู่ตำแหน่งสูงสุดของรัฐบาลเลบานอน
ทั้งนี้ ในการกล่าวสุนทรพจน์เพื่อรณรงค์เลือกตั้งผ่านทางโทรทัศน์ที่ถ่ายทอดสดจากกรุงเบรุต เมืองหลวงของเลบานอนในเย็นวันอังคาร (1 พ.ค.) ซัยยิดฮัสซัน นัสรุลเลาะห์ เลขาธิการขบวนการฮิซบุลเลาะห์ ได้กล่าวว่า ในการเลือกตั้งรัฐสภา ผู้มีสิทธิ์ออกเสียงชาวเลบานอนจะต้องลงคะแนนเสียงให้แก่ผู้ที่มิได้ละเลยในการปกป้องพวกเขา ไม่ใช่คนที่เข้าร่วมกับกลุ่มตักฟีรี (ผู้ก่อการร้าย) ร่วมวางแผนร้ายและทรยศต่อประชาชน