“มหาเดร์” ชี้ พฤติกรรมของมุสลิม คือเหตุ “ผลักไส” ผู้คนออกห่างอิสลาม

ถ้าชาวมุสลิมต้องการให้ผู้อื่นอ้าแขนรับอิสลาม พวกเขาก็พึงแสดงให้เห็นด้วยพฤติกรรมและทัศนคติของพวกเขาว่าอิสลามนั้นเป็นศาสนาที่ประเสริฐ “ดร.มหาเดร์ มูฮัมหมัด” นายกรัฐมนตรีมาเลเซีย กล่าวเมื่อวันที่ 30 ส.ค. ที่ผ่านมา สื่อมาเลเซีย freemalaysiatoday รายงาน

มุสลิมควรแสดงให้เห็นว่าอิสลามนั้นสามารถรับประกันในความสำเร็จได้ ไม่เพียงแต่ในเรื่องชีวิตหลังความตายเท่านั้น แต่ในโลกนี้ด้วย เขากล่าวในการเปิดสถาบันเผยแพร่ศาสนานานาชาติเปอร์กิม (International Da’Wah Institute Perkim)

อย่างไรก็ตาม เขากล่าวว่า เป็นเรื่องน่าเสียใจ กรณีที่ชาวมุสลิมส่วนหนึ่งได้ฉายภาพอิสลามว่าเป็นศาสนาที่ไม่อาจประสบความสำเร็จอันเนื่องจากพฤติกรรมของพวกเขา รวมถึงการฆ่าในนามของศาสนาอิสลาม และไม่ปกครองประเทศของตนอย่างเหมาะสม

“ในทีแรก อิสลามบอกเราว่าเราเป็นพี่น้องกัน แต่เราไม่ได้ทำตัวเหมือนพี่น้อง เรากำลังต่อสู้กัน อิสลามห้ามการฆ่า แต่เรากำลังฆ่ากัน”

“อิสลามสนับสนุนความเป็นธรรมและความยุติธรรม แต่เราไม่ได้นำมาปฏิบัติ เรื่องนี้ไม่เพียงเกิดขึ้นในประเทศมาเลเซียเท่านั้น แต่รวมถึงประเทศอื่นๆ ด้วย”

“เพราะการกระทำผิดของพี่น้องมุสลิมเรา ศาสนาอิสลามจึงมีภาพลักษณ์ที่ไม่ดี และนี่จะไม่ดึงดูดผู้คนมายังศาสนาที่ประเสริฐนี้” เขากล่าว

ดร.มหาเดร์กล่าวว่า อิสลามเป็นศาสนาที่ดีและเป็นวิถีแห่งชีวิต กระนั้นเขาก็เน้นย้ำว่า ด้วยแนวทางที่ชาวมุสลิมใช้ชีวิตจะบอกคนอื่นว่าอิสลามนั้นเป็นศาสนาที่ดีหรือไม่

นายกรัฐมนตรีมาเลเซียชี้ว่า สิ่งที่ชาวมุสลิมกำลังทำอยู่ไม่สอดคล้องกับคำสอนของศาสนาอิสลาม และบางครั้งชาวมุสลิมก็ไม่ได้ช่วยตัวเอง และทำสิ่งต่างๆ ที่ผลักไสผู้คนออกจากศาสนาอิสลาม

เขากล่าวว่า ในการเผยแผ่ศาสนาอิสลามนั้นเป็นหน้าที่ของชาวมุสลิมในการแสดงให้เห็นว่าผู้ที่ยอมรับคำสอนของอิสลามจะประสบความสำเร็จ ไม่เพียงแต่ในชีวิตหลังความตาย แต่ในโลกนี้ด้วย

“เราต้องแสดงให้เห็นว่าอิสลามไม่ใช่อุปสรรคและไม่ใช่สิ่งกีดกั้นต่อความสำเร็จของชาวมุสลิม เราต้องได้รับการยอมรับว่าเป็นผู้ที่ประสบความสำเร็จในทุกสาขาวิชา ในสาขาแห่งความรู้ การจัดการ และการปกครอง ท่ามกลางคนอื่นๆ  เพื่อแสดงให้เห็นว่าในฐานะมุสลิมเราสามารถปกครองตัวเอง ประสบความสำเร็จ และมีความรู้”

“ช่างน่าเสียดาย ที่เราไม่ได้เน้นสิ่งเหล่านั้น เราจักต้องศึกษาศาสนาอิสลามเพราะเราจักต้องรู้ในสิ่งที่ศาสนาของเราสอนเรา ช่างน่าเสียดาย ที่เราแทบจะไม่รู้จักคำสอนของศาสนาอิสลาม” เขากล่าว

มหาเดร์กล่าวว่า ถึงเวลาแล้วที่ชาวมุสลิมจะทบทวนพฤติกรรมของพวกเขา และถามตัวเองว่าพวกเขาใช้ชีวิตในวิถีทางของมุสลิมหรือไม่

“ผมรู้สึกว่าเราล้มเหลวที่จะทำเช่นนั้น เพราะคุณได้เห็นชาวมุสลิมเป็นคนที่ถอยหลัง คนยากจน แม้กระทั่งการขอความช่วยเหลือจากผู้อื่น เมื่อเราเป็นเช่นนั้น ผมไม่คิดว่าผู้คนจะถูกดึงดูดสู่คำสอนของศาสนาอิสลาม”

“การแพร่กระจายของนักเผยแผ่ศาสนา (ดะวะห์) ไปยังชุมชนและประชาชน ควรจะแสดงให้เห็นถึงความสำเร็จของชาวมุสลิม ความรักของพวกเขาต่อสันติภาพ และทัศนคติฉันพี่น้องของพวกเขาต่อมุสลิมคนอื่นๆ นั่นคือพวกเขาไม่ควรเป็นศัตรูต่อผู้คนที่ไม่ทำร้ายพวกเขา ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของคำสอนของศาสนาอิสลาม”

“ถ้าเราทำอย่างนั้น มุสลิมจะแสดงเป็นตัวอย่างที่ดีให้กับโลกทั้งผอง และผู้คนก็จะถูกดึงดูดสู่คำสอนของศาสนาอิสลาม” เขากล่าวและเสริมด้วยว่า เรื่องนี้ควรจะสอนให้กับนักเทศน์และนักเผยแผ่ศาสนา