แม้ซาอุฯ ฆ่านักข่าวในสถานกงสุลจริง ทรัมป์ก็ไม่ยกเลิกขายอาวุธ

TheNewArab – ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐฯ กล่าวว่า สหรัฐฯ จะต้องลงโทษตัวเอง หากยกเลิกการขายอาวุธให้ซาอุดีอาระเบีย จากกรณีถูกกล่าวหาว่าฆาตกรรมนักข่าวและผู้ได้สิทธิพำนักถาวรในสหรัฐ (American resident) ในสถานกงสุลของตนประเทศตุรกี

ทรัมป์เสริมว่า แม้สืบพบว่าริยาดอยู่เบื้องหลังการฆ่าจามาล คาช็อกกี นักเขียนที่กลายเป็นภัยคุกคามสำคัญของ โมฮัมหมัด บินซัลมาน มกุฎราชกุมารซาอุฯ ก็ตาม สหรัฐฯ ก็ไม่ยกเลิกการขายอาวุธ

“ผมคิดว่า เราต้องโทษตัวเองถ้าเราทำอย่างนั้น” ทรัมป์กล่าวตามรายงานรอยเตอร์

“มีสิ่งอื่นๆ อีกที่เราสามารถทำได้ ซึ่งมีอานุภาพมาก มีพลังมาก และเราจะทำมัน”

ทรัมป์ไม่ได้แจกแจงว่ามาตรการเหล่านั้นจะเป็นอย่างไร

เจ้าชายหนุ่มแห่งซาอุฯ เป็นผู้อยู่เบื้องหลังสัญญาซื้อขายอาวุธล็อตใหญ่มูลค่า 110 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ กับนายทรัมป์ซึ่งจะนำงานและเงินเข้ามาในสหรัฐฯ ในขณะที่ประธานาธิบดีกำลังแสวงหาการเพิ่มขึ้นของงานและการเติบโตของเศรษฐกิจ

อย่างไรก็ตาม ระบอบการปกครองของซาอุดิอาระเบียในทางพฤตินัยเชื่อมโยงกับการสังหารนักวิจารณ์รัฐบาลซาอุฯ ที่สถานกงสุลในอิสตันบูล

ทางการตุรกีได้กล่าวว่า มีหลักฐานว่า คาช็อกกีถูกทรมานและถูกสังหารในอาคารทางการทูต โดยมีทีมสังหารชาย 15 คนที่ส่งมาจากซาอุดิอาระเบียเพื่อดำเนินการฆาตกรรมในครั้งนี้

ทรัมป์ได้รับแรงกดดันจากทั้งสองขั้วของสภาคองเกรสที่จะดำเนินมาตรการอย่างหนักกับซาอุดีอาระเบีย หากริยาดถูกพบว่าอยู่เบื้องหลังการฆาตกรรมนักข่าวที่มีชื่อเสียงคนนี้

ก่อนหน้านี้ทรัมป์เสียงแข็งว่าซาอุฯจะต้องได้รับผลกรรมจากการกระทำเช่นนี้ แต่ต่อมาเสียงก็แผ่วเบาลงเมื่อพูดกับนักข่าว

“ถ้าพวกเขาไม่ซื้อมันจากเรา พวกเขาก็จะซื้อมันจากรัสเซีย หรือไม่พวกเขาก็จะซื้อมันจากจีน … คิดถึงเรื่องนั้นสิ 110 พันล้านเหรียญ ทั้งหมดที่พวกเขาจะทำคือให้มันไปยังประเทศอื่น และผมคิดว่านั่นเป็นเรื่องโง่เง่ามาก” ทรัมป์กล่าว

ทรัมป์ให้ความเห็นที่คล้ายกันเมื่อต้นสัปดาห์นี้ โดยไม่อยากเสี่ยงต่อการขายอาวุธครั้งประวัติศาสตร์