หากสหรัฐฯ คว่ำบาตร ซาอุฯ อาจหันไปอี๋อ๋อกับอิหร่าน และให้รัสเซียตั้งฐานทัพ

“ตุรกี อัลดาคิล” ผู้จัดการทั่วไปของสถานีโทรทัศน์อัลอะราบิยา (ขวา) กับเจ้าชายมูฮัมหมัด บินซัลมาน (ซ้าย)

“ตุรกี อัลดาคิล” ผู้จัดการทั่วไปสถานีโทรทัศน์อัลอะราบิยา สื่อที่สนับสนุนรัฐบาลซาอุฯ ชี้ว่า การที่วอชิงตันจะลงโทษคว่ำบาตรริยาดอันเนื่องจากกรณีหายตัวไปของนักข่าวซาอุดิอาระเบีย “จามาล คาช็อกกี” อาจทำให้เกิด ‘ผลกระทบ’ หลายอย่าง เช่น การสร้างสายสัมพันธ์ระหว่างเตหะรานและริยาด และให้รัสเซียตั้งฐานทัพในพื้นที่ยุทธศาสตร์

ขณะที่โลกกำลังกดดันซาอุดิอาระเบียให้ต้องรับผิดชอบต่อชะตากรรมของนักข่าวต่อต้านรัฐบาล “จามาล คาช็อกกี” ที่หายตัวไปจากกงสุลซาอุฯ ในตุรกี “ตุรกี อัลดาคิล” สื่อที่ใกล้ชิดกับเจ้าชายมูฮัมหมัด บินซัลมาน และโปรรัฐบาลซาอุฯ ได้เขียนบทความตั้งข้อสังเกตกรณีดังกล่าวในเว็บไซต์ Al-Arabiya.net หัวข้อ “การคว่ำบาตรสหรัฐฯ ต่อริยาด อาจหมายถึงวอชิงตันกำลังทำร้ายตัวเอง” (US sanctions on Riyadh would mean Washington is stabbing itself)

รายงานดังกล่าวถูกเขียนขึ้นคล้อยหลังไม่นานที่ประธานาธิบดีสหรัฐฯ โดนัลด์ ทรัมป์ กล่าวว่า ริยาดจะประสบกับ “ผลกระทบร้ายแรง” หากปรากฎว่าอยู่เบื้องหลังการหายตัวไปของ “จามาล คาช็อกกี”

“ตุรกี อัลดาคิล” เตือนว่าหากสหรัฐฯ มีมาตรการลงโทษซาอุฯ ก็เท่ากับว่า พวกเขาได้นำมาซึ่งสถานการณ์ภัยพิบัติที่จะกระทบเศรษฐกิจสหรัฐฯ หนักกว่าสภาพเศรษฐกิจของซาอุดิอารเบีย

ผู้จัดการทั่วไปของสถานีโทรทัศน์อัลอะราบิยาบอกด้วยว่า “ถ้าการคว่ำบาตรของสหรัฐฯ ถูกบังคับใช้กับซาอุดิอาระเบีย เราจะเผชิญกับภัยพิบัติทางเศรษฐกิจที่จะทำให้โลกตกต่ำ”

เขาระบุว่า ราคาน้ำมันอาจเพิ่มขึ้นเป็น 100 เหรียญ หรือ 200 เหรียญ และบางทีอาจเป็นสองเท่าของตัวเลขดังกล่าว และสกุลเงินหยวนของจีนอาจจะเข้ามาแทนที่เงินดอลลาร์สหรัฐฯ ในการซื้อขายน้ำมัน

สื่อที่มีอิทธิพลต่อโลกอาหรับกล่าวเพิ่มเติมว่า ทั้งหมดนี้จะทำให้ริยาดเข้าใกล้ชิดกับเตหะรานมากขึ้นเพื่อทำให้วอชิงตันสะดุ้งกลัว และจะผลักให้ตะวันออกกลางและโลกมุสลิมเข้าสู่อ้อมแขนของอิหร่าน

เขาตั้งข้อสังเกตว่า ซาอุฯ อาจพิจารณาให้รัสเซียเข้ามาตั้งฐานทัพรัสเซียในเมืองตาบูก (Tabuk) ทางตะวันตกเฉียงเหนือของซาอุดีอาระเบีย ซึ่งเป็นพื้นที่ยุทธศาสตร์ที่อยู่ใกล้กับซีเรีย อิสราเอล เลบานอน และอิรัก

“ในช่วงเวลาที่ฮามาสและฮิซบุเลาะห์ได้ผินหลังจากความเป็นศัตรูมาสู่ความเป็นมิตรสหาย ทำให้ใกล้ชิดกับรัสเซียอันจะนำไปสู่ความใกล้ชิดกับอิหร่าน และบางทีอาจถึงขั้นการปรองดองกันด้วย” เขาระบุ

นอกจากนี้เขายังระบุว่า ซาอุฯจะหยุดซื้ออาวุธจากสหรัฐฯ ซึ่งปัจจุบันเป็นลูกค้ารายใหญ่ที่สุดของบริษัทสหรัฐฯ รวมทั้งวอชิงตันจะถูกไล่ออกจากตลาดซาอุดีอาระเบียซึ่งปัจจุบันเป็นหนึ่งใน 20 ประเทศชั้นนำที่มีเศรษฐกิจดีที่สุดในโลก

“ความจริงก็คือ ถ้าวอชิงตันออกมาตรการคว่ำบาตรริยาด มันจะทิ่มแทงเศรษฐกิจของตัวเองจนถึงขั้นตาย แม้จะคิดว่าการกระทำดังกล่าวเป็นเพียงการทิ่มแทงริยาดเท่านั้น!” ผู้จัดการทั่วไปของสถานีโทรทัศน์อัลอะราบิยาเขียนทิ้งท้าย