RT – สหรัฐฯ จะถอนตัวออกจากสนธิสัญญาว่าด้วย “อาวุธนิวเคลียร์พิสัยกลาง” (Intermediate-Range Nuclear Forces Treaty – INF) ที่เคยทำร่วมกับรัสเซีย โดยอ้างว่ามอสโกละเมิดสนธิสัญญานี้
“เรากำลังจะยกเลิกข้อตกลง แล้วเราจะพัฒนาอาวุธนี้” เว้นแต่รัสเซียและจีนจะทำข้อตกลงใหม่ ทรัมป์กล่าววานนี้ (วันเสาร์ 20 ต.ค.) กระนั้นแม้ทรัมป์จะอ้างว่ารัสเซียได้ละเมิดข้อตกลงนี้ แต่เขาก็ไม่ได้ระบุหลักฐานใดๆ ระหว่างการประกาศของเขาเมื่อวันเสาร์
ทรัมป์แถลงเรื่องนี้ที่เมืองเอลโก รัฐเนวาดา คล้อยหลังเพียงหนึ่งวันที่เดอะการ์เดี้ยนรายงานว่า “จอห์น โบลตัน” ที่ปรึกษาความมั่นคงแห่งชาติ กำลังผลักดันประธานาธิบดีให้ออกจากสนธิสัญญาดังกล่าว
รัสเซียบอกหลายครั้งแล้วว่า จะรักษาสนธิสัญญา INF อย่างเคร่งครัด ตราบเท่าที่สหรัฐฯ ยังคงทำเช่นเดียวกัน อย่างไรก็ตามประธานาธิบดีปูตินแห่งรัสเซียระบุในเดือนตุลาคม ปี 2017 ว่าการถอนตัวใดๆ จากวอชิงตัน ก็จะได้เห็นการตอบสนองอย่าง “ทันทีเสมือนกระจกเงา” จากมอสโก
ในขณะเดียวกันฝ่ายบริหารของทำเนียบขาวซึ่งกำลังดำเนินการตามยุทธศาสตร์สร้างคลังแสงนิวเคลียร์ ได้อนุมัติแผนการพัฒนาขีปนาวุธพิสัยกลางแล้ว ซึ่งการพูดเมื่อวันเสาร์ประธานาธิบดีสหรัฐฯกล่าวว่าจะ “ต้องพัฒนาอาวุธเหล่านี้” และดึงปักกิ่งเข้าสู่การทะเลาะวิวาทประเด็นนิวเคลียร์ด้วย
ในขณะที่เครมลินยังไม่ได้ให้การตอบสนองอย่างเป็นทางการต่อการย่างก้าวของทรัมป์ แต่ฝ่ายนิติบัญญัติของรัสเซียและแหล่งข่าวในกระทรวงต่างประเทศก็ได้ออกมาประณามความตั้งใจของสหรัฐที่จะทำลายความมั่นคงของโลกและดึงรัสเซียเข้าสู่การแข่งขันอาวุธครั้งใหม่
“การตัดสินใจนี้เป็นส่วนหนึ่งของนโยบายสหรัฐฯ ที่จะถอนตัวออกจากข้อตกลงกับนานาชาติ… และทำให้แนวคิดเรื่อง “ความพิเศษแต่ผู้เดียว” (exclusivity) ของพวกเขา ตกอยู่ในความเสี่ยง” แหล่งข่าวในกระทรวงการต่างประเทศบอกกับสำนักข่าวสปุตนิกของรัสเซีย และว่า มอสโกไม่รู้สึกประหลาดใจอะไรกับการตัดสินใจของทำเนียบขาวในการทิ้งข้อตกลงนิวเคลียร์
ในขณะเดียวกันฝ่ายนิติบัญญัติรัสเซียก็เน้นว่า ทรัมป์มีเป้าหมายที่จะลากสหรัฐฯ เข้าสู่การแข่งขันอาวุธครั้งใหม่กับรัสเซีย
“เห็นได้ชัดว่าสหรัฐฯไม่มีหลักฐานใดๆ ในการพิสูจน์ว่ารัสเซียละเมิดบทบัญญัติของสนธิสัญญานี้” สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรรัสเซีย แซน ฟริต คลินเชอร์วิช (Schants Frits Klintsevich) กล่าวกับสปุตนิก และว่า สหรัฐอเมริกา “ต้องการลากเราเช่นสหภาพโซเวียตให้เข้าสู่การแข่งขันด้านอาวุธ แต่จะไม่ประสบความสำเร็จ”
“สหรัฐกำลังหวนกลับสู่โลกแห่งสงครามเย็น” วุฒิสมาชิกอะเล็กซี ปุชกอฟ (Aleksey Pushkov) เขียนไว้ในทวิตเตอร์ และว่า “รัสเซียจะไม่อนุญาตให้ใครมีอำนาจนิวเคลียร์เหนือกว่าตนเอง เพียงแค่นี้เท่านั้นที่สามารถป้องกันการรุกรานทางนิวเคลียร์ได้”
อนึ่งสนธิสัญญากองกำลังนิวเคลียร์พิสัยกลาง (Intermediate-Range Nuclear Forces Treaty – INF) สหรัฐฯ และรัสเซียได้ลงนามร่วมกันไว้เมื่อปี 1987 ในสมัยของอดีตประธานาธิบดี โรนัลด์ เรแกน ของสหรัฐฯ และอดีตประธานาธิบดี มิกาอิล กอร์บาชอฟ แห่งสหภาพโซเวียต