รมว.กลาโหมอิสราเอลขู่ “ไม่มีทางเลือกอื่นแล้วนอกจากสงคราม” เพื่อจัดการ “ฮามาส”

FILE PHOTO © Reuters / Yannis Behrakis

อาร์ที – อิสราเอลไม่มีทางเลือกอื่น เว้นแต่ต้องเปิดศึกทางทหารต่อกลุ่มก่อการร้ายฮามาส รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมอิสราเอล อวิกดอร์ ลีเบอร์แมน ขู่ พร้อมกับรายงานที่ระบุว่ากองกำลังป้องกันอิสราเอล (IDF) กำลังเคลื่อนย้ายรถถังไปประจำการตามแนวพรมแดนของกาซา

“สงครามจะเปิดฉากเมื่อไม่มีทางเลือกเท่านั้น และตอนนี้มันไม่มีทางเลือก” ลีเบอร์แมนบอกกับรัฐสภา 

มีการคาดการณ์ถึงความเป็นไปได้ที่อิสราเอลจะเปิดปฏิบัติการรุกรานต่อฉนวนกาซามาหลายวันแล้ว เนื่องจาก IDF ได้ขนรถถังและยานเกราะประมาณ 60 คันไปประจำการอยู่ใกล้ชายแดนปาเลสไตน์ ซึ่งถือว่าเป็นการกรีธากำลังทางทหารที่ใหญ่ที่สุดนับตั้งแต่ปี 2014 ซึ่งอิสราเอลรุกรานปาเลสไตน์ในปฏิบัติการที่ชื่อ “Operation Protective Edge”

ความตึงเครียดนี้เกิดขึ้นคล้อยหลังการปะทะตอบโต้เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา เมื่อจรวดลูกหนึ่งจากฝั่งกาซาถูกยิงเข้าไปยังเมืองบีเชบาร์ทางตอนใต้ของอิสราเอลทำลายบ้านเรือนหนึ่งหลัง ขณะที่จรวดอีกลูกตกลงไปในทะเลใกล้กรุงเทลอาวีฟ กองทัพอิสราเอลตอบโต้ด้วยการโจมตีทางอากาศที่ทำให้ชาวปาเลสไตน์หนึ่งคนเสียชีวิตและอีกหลายคนได้รับบาดเจ็บ

ลีเบอร์แมนกล่าวหาว่าเป็นฝีมือของฮามาส ขบวนการต่อต้านอิสราเอลแห่งปาเลสไตน์ที่ควบคุมกาซา เขาอ้างว่าฮามาสไม่เป็นที่นิยมในฉนวนกาซา และชาวปาเลสไตน์ที่มีส่วนร่วมในการประท้วงขนาดใหญ่ก็เพราะการจ่ายเงินของฮามาส

แต่ชาวปาเลสไตน์กล่าวว่า พวกเขาออกมาประท้วงด้วยเจตจำนงแห่งเสรีชนของตนเองเพื่อต่อต้านการกดขี่ของอิสราเอล 

ชาวปาเลสไตน์กว่า 200 คนถูกสังหาร ในจำนวนนี้มีทั้งบุคลากรทางการแพทย์และนักข่าว และบาดเจ็บอีกกว่า 22,000 ราย อันเนื่องจากการประท้วงที่ชายแดนในชื่อ – Great March of Return – ซึ่งเริ่มขึ้นในเดือนมีนาคมที่ผ่านมา

อิสราเอลได้ทวีความรุนแรงมากขึ้นในการรื้อถอนหมู่บ้านชาวปาเลสไตน์ในฝั่งเวสต์แบงก์เพื่อหาทางขยายการตั้งนิคมของชาวยิวอย่างผิดกฎหมาย