นายกรัฐมนตรีอิสราเอล “เบนจามิน เนาทันยาฮู” ได้เดินทางเยือนโอมานอย่างเป็นทางการ ซึ่งเขาได้พบกับสุลต่านกาบูส บินซาอิด สำนักงานของเขาเปิดเผยเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา (26 ต.ค.) ฮาอาเร็ตส์ สื่ออิสราเอลรายงาน
โอมานไม่มีสัมพันธ์ทางการทูตกับอิสราเอล แม้จะมีความเกี่ยวพันเล็กน้อยตามสนธิสัญญาออสโลในยุค 90
ประธานาธิบดีปาเลสไตน์ นายมาห์มูด อับบาส ก็ได้ไปเยือนโอมานเมื่อต้นสัปดาห์นี้ ระหว่างวันที่ 21-23 ตุลาคม เขาให้สัมภาษณ์ทีวีปาเลสไตน์ว่าการเดินทางครั้งนี้ “ประสบความสำเร็จในทุกระดับ” กระนั้นก็ไม่ทราบแน่ชัดว่า ตอนนั้นเขารู้หรือไม่ว่า เนทันยาฮูกำลังจะมาเยือนประเทศนี้ในเร็วๆ นี้
เนทันยาฮูและภรรยาได้รับเชิญไปเยือนโดยสุลต่านหลังจากการติดต่อกันเป็นเวลานานระหว่างสองประเทศ นายกรัฐมนตรีอิสราเอลกล่าวว่าในแถลงการณ์ รายงานของฮาอาเร็ตส์ระบุ
นายกรัฐมนตรีอิสราเอลเดินทางไปยังประเทศโอมานซึ่งเป็นประเทศเพื่อนบ้านอิหร่านเมื่อวันพฤหัสบดี ที่ 25 ต.ค. และใช้เวลาทั้งคืนที่นั่นก่อนที่จะเดินทางกลับประเทศอิสราเอล
การพบปะระหว่างผู้นำของทั้งสองประเทศนี้นับเป็นครั้งแรกตั้งแต่ปี 1996
สำนักงานนายกรัฐมนตรีอิสราเอลแถลงว่า ทั้งสองฝ่ายหารือถึงวิธีการเพื่อให้เกิด “สันติภาพและความมั่นคงในตะวันออกกลาง” และเสริมว่า “การเยือนของนายกรัฐมนตรีอิสราเอลเป็นก้าวสำคัญในการดำเนินนโยบายตามที่เนทันยาฮูระบุไว้เกี่ยวกับการกระชับความสัมพันธ์กับรัฐต่างๆ ภูมิภาค โดยใช้ประโยชน์จากข้อได้เปรียบของอิสราเอลในด้านความปลอดภัย เทคโนโลยี และเรื่องเศรษฐกิจ” รายงานของฮาอาเร็ตส์ระบุ
ด้านมิดเดิลอีสต์อาย รายงานอ้างแหล่งข่าวนักการทูตที่ขอปกปิดตัวตนซึ่งได้ให้ความเห็นว่า “”โอมานกำลังพยายามที่จะมีบทบาทในระดับภูมิภาคระหว่างกลุ่มและแกนต่างๆ ในภูมิภาคนี้ และเห็นว่าอิสราเอลเป็นผู้เล่นสำคัญในประเด็นต่างๆ ของภูมิภาค”
ตามแถลงการณ์ของอิสราเอล เนทันยาฮูเดินทางไปโอมานพร้อมกับเจ้าหน้าที่ระดับสูงของอิสราเอลหลายคนรวมทั้งหัวหน้ามอสสาด “ยอสซี โชเฮน” (Yossi Cohen) ซึ่งทำหน้าที่เป็นที่ปรึกษาของนายกรัฐมนตรีในเรื่องความมั่นคงแห่งชาติ, หัวหน้าหน่วยสืบราชการลับแห่งชาติ, ปลัดกระทรวงการต่างประเทศ, หัวหน้าสำนักงานนายกรัฐมนตรี และเสนาธิการกองทัพของเนทันยาฮู
ในทวีตของ “นายอายูป คารา” สมาชิกพรรคลิคุดของเนทันยาฮู และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมของอิสราเอล เขากล่าวว่า การเยือนโอมานเป็น “หลักฐาน … ความสัมพันธ์ที่ดีระหว่างรัฐบาลอิสราเอลและประเทศซุนนีที่ต่อต้านการก่อการร้ายของอิหร่านที่คุกคามพวกเขา”
อย่างไรก็ตาม ในความเป็นจริงชาวโอมานประกอบมาจากมุสลิมสามสำนักคิด ได้แก่ ซุนนี ชีอะห์ และ อิบาดียะห์ ซึ่งลำดับที่สามคือศาสนาอย่างเป็นทางการของโอมาน มิดเดิลอีสต์อายระบุ