อาร์ที – เฟสบุ๊คได้ลบบัญชีเพจและกลุ่มทั้งหมด 82 บัญชี โดยอ้างว่าบริหารจัดการจากอิหร่าน เพื่อรณรงค์โฆษณาชวนเชื่อออนไลน์ โพสต์ข้อความโดยปลอมเป็นพลเมืองสหรัฐฯ และโพสต์สร้างกระแสในหัวข้อทางการเมือง
บัญชีที่ถูกระงับมีสาเหตุเพราะมีส่วนร่วมใน “พฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมโดยประสานงานร่วมกัน” บนเฟสบุ๊ค และ อินสตแกรม โพสต์เกี่ยวกับเรื่องต่างๆ เช่น “ความสัมพันธ์ระหว่างเชื้อชาติ คัดค้านต่อต้านประธานาธิบดี และประเด็นการอพยพ” หัวหน้าฝ่ายนโยบายความปลอดภัยทางไซเบอร์ “นาทาเนล ไกลเชอร์” เขียนไว้ในเว็บไซต์ของบริษัทเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา (26 ต.ค.)
อย่างน้อยหนึ่งบัญชีที่ถูกระงับมีผู้ติดตามมากถึง 1.02 ล้านคน
เฟสบุ๊คยอมรับว่าล้มเหลวในการหาความสัมพันธ์ใดๆ ระหว่างบัญชีที่ถูกลบกับรัฐบาลอิหร่าน
“เราไม่สามารถพูดได้อย่างมั่นใจว่าใครเป็นผู้รับผิดชอบ” ไกลเชอร์กล่าว
Today we took down multiple Pages, groups and accounts that originated in Iran for engaging in coordinated inauthentic behavior on FB and IG. Find out more: https://t.co/C2ukHdBCXq
— Facebook (@facebook) October 26, 2018
เฟสบุ๊คได้เปิดเผยตัวอย่างเนื้อหาที่สร้างขึ้นโดยบัญชีที่ถูกตั้งค่าสถานะเป็นบอทอิหร่าน ดูเหมือนว่าพวกเขาจะโฆษณาชวนเชื่อด้านการโปรเสรีนิยมและมุมมองฝ่ายซ้าย และต่อต้านประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ หนึ่งในนั้นเรียกทรัมป์ว่า “ประธานาธิบดีที่เลวร้ายที่สุด น่ารังเกียจที่สุดในประวัติศาสตร์อเมริกา” อีกข้อความหนึ่งแสดงให้เห็นถึงการสนับสนุนนักวิจารณ์ทรัมป์ “โคลิน เคเพอร์นิก” นักกีฬาเอ็นเอฟแอล
ตามที่ฝ่ายเทคนิคเฟสบุ๊คกล่าว บัญชีเหล่านี้อ้างว่าเป็นพลเมืองของสหรัฐอเมริกาและในบางกรณีก็อ้างเป็นพลเมืองของอังกฤษ
เฟสบุ๊คและบริษัทด้านเทคโนโลยีขนาดใหญ่อื่นๆ เช่น ทวิตเตอร์ และกูเกิล ได้รับแรงกดดันจากรัฐบาลสหรัฐฯ ในการเพิ่มความพยายามในการต่อสู้กับ ‘แคมเปญโฆษณาชวนเชื่อ’ และ ‘การแทรกแซงการเลือกตั้ง’ ที่ถูกกล่าวหาว่าเป็นฝีมืออิหร่านและรัสเซีย
ในเดือนสิงหาคม เฟสบุ๊คได้สั่งระงับ 652 บัญชี ที่ “ไม่น่าไว้วางใจ” และเชื่อมโยงกับเตหะรานและมอสโก ทวิตเตอร์ทำเช่นเดียวกันโดยการระงับ 284 บัญชีที่ถูกกล่าวหาว่า “สร้างขึ้น” จากอิหร่าน
ทั้งอิหร่านและรัสเซียได้ปฏิเสธข้อกล่าวหาเกี่ยวกับความพยายามที่จะแทรกแซงกิจการภายในประเทศของสหรัฐฯ ตลอดมา