ท่ามกลางการจับตาการเสียชีวิตจากเหตุฆาตกรรมของ “จามาล คาซ็อกจี” ผู้นำอิสราเอลเรียกร้องฝ่ายบริหารของทรัมป์ อย่าให้เหตุการณ์นี้มาบ่อนทำลายความสัมพันธ์เชิงยุทธศาสตร์กับริยาด ไทม์ออฟอิสราเอลรายงานอ้างเดอะวอชิงตันโพสต์
เมื่อเร็วๆ นี้ นายเบนจามิน เนทันยาฮู นายกรัฐมนตรีอิสราเอล เรียกร้องเจ้าหน้าที่ระดับสูงของสหรัฐฯ กระตุ้นไม่ให้วอชิงตันละทิ้งการสนับสนุน “โมฮัมเหม็ด บินซัลมาน” มกุฎราชกุมารซาอุดิอาระเบีย ท่ามกลางการวิพากษ์วิจารณ์เรื่องสังหารนักข่าวซาอุดีอาระเบีย “จามาล คาซ็อกจี” ในอิสตันบูล ตามรายงานของสื่อหลายฉบับ
รายงานในนสพ.ฉบับประจำวันพฤหัสบดี ที่ 1 พ.ย. เดอะวอชิงตันโพสต์กล่าวว่า เนทันยาฮู บอกกับเจ้าหน้าที่ฝ่ายบริหารของทรัมป์ว่า บินซัลมานเป็นหุ้นส่วนทางยุทธศาสตร์ที่สำคัญ และเป็นแกนหลักในการต่อต้านการรุกรานของอิหร่านในภูมิภาคนี้
เจ้าหน้าที่อาวุโสอิสราเอลคนหนึ่งบอกกับทีวีช่อง 10 ของอิสราเอลว่า “สิ่งที่เกิดขึ้นกับการฆาตกรรมคาซ็อกจีเป็นปริศนามาก แล้วนั่นก็เป็นคำกล่าวที่น้อยไปกว่าความจริง แต่เรามีความผลประโยชน์ที่สำคัญอย่างมากซึ่งเกี่ยวข้องประเทศซาอุดิอารเบีย เราต้องสร้างความมั่นคง [ในซาอุดิอาระเบีย] ลองจินตนาการถึงสิ่งที่จะเกิดขึ้นหากซาอุดีอาระเบียไม่เสถียร มันจะส่งผลกระทบต่อทั้งภูมิภาค”
เจ้าหน้าที่ของอิสราเอลยืนยันรายงานของวอชิงตันโพสต์ว่าเป็นความจริงผ่านทางเว็บไซต์ข่าว Ynet ว่า เนทันยาฮูเรียกร้องเจ้าหน้าที่ในวอชิงตันว่าอย่าให้ความสัมพันธ์ใกล้ชิดกับเจ้าชายมกุฎราชกุมารซาอุ ถูกบ่อนทำลายโดยเหตุการณ์ดังกล่าว
เจ้าหน้าที่ของอิสราเอลคนหนึ่งกล่าวว่า “ซาอุดิอาระเบียเป็นประเทศที่มีความสำคัญมากในภูมิภาคนี้ และอิสราเอลและประเทศอื่นๆ ก็มีผลประโยชน์สำคัญในการสร้างความมั่นคงต่อไป” ไทม์ออฟอิสราเอลรายงาน
ทั้งนี้วอชิงตันโพสต์ยังรายงานด้วยว่า ในการสนทนากับทำเนียบขาวบินซัลมานได้พูดถึงคาซ็อกจี ว่าเป็น “อิสลามิสต์ที่อันตราย” โดยอ้างว่าเขาเป็นสมาชิกของกลุ่มภราดรภาพมุสลิม