Presstv – นายเบนจามิน เนทันยาฮู นายกรัฐมนตรีอิสราเอล กล่าวว่า ความร่วมมือกับซาอุดีอาระเบียเพื่อต่อสู้กับอิหร่านเป็นความสำคัญยิ่งกว่าและเป็นปัญหาใหญ่กว่าคดีฆาตกรรมอันน่าสยดสยองของริยาดต่อ “จามาล คาช็อกจี”ในประเทศตุรกี
เนทันยาฮูได้แถลงเรื่องนี้เมื่อวันศุกร์ (2 ต.ค.) ซึ่งเป็นปฏิกิริยาต่อสาธารณะครั้งแรกของเขาในกรณีการลอบสังหารคาช็อกจีในสถานกงสุลซาอุดีอาระเบียในกรุงอิสตันบูล
“สิ่งที่เกิดขึ้นที่สถานกงสุลอิสตันบูลเป็นเรื่องน่ากลัวและควรได้รับการปฏิบัติอย่างถูกต้อง แต่ในขณะเดียวกัน เป็นเรื่องสำคัญมากสำหรับเสถียรภาพของภูมิภาคนี้และของโลกที่ซาอุดีอาระเบียก็ต้องคงมีเสถียรภาพอยู่” นายกรัฐมนตรีอิสราเอลกล่าวในกรุงโซเฟีย ประเทศบัลแกเรีย
เขาพาดพิงถึงอิหร่านว่าเป็น “ปัญหาใหญ่กว่า” เมื่อเทียบกับการลอบสังหารคาช็อกจี และเรียกร้องให้หาวิธีที่จะจัดการกับคดีนี้โดยที่ไม่ทำลายความร่วมมือกับประเทศซาอุดีอาระเบียในการต่อสู้กับอิหร่าน
ก่อนหน้านี้เมื่อวันพฤหัสบดี (1 ตพ.ย.) เดอะวอชิงตันโพสต์ได้เปิดเผยว่า เนทันยาฮูได้ขอให้ประธานาธิบดีสหรัฐฯ โดนัลด์ ทรัมป์ ให้การสนับสนุนเจ้าชายโมฮัมเหม็ด บินซัลมาน มกุฎราชกุมารซาอุดิอาระเบียต่อไป แม้จะมีข้อกล่าวหาว่าเขาเป็นผู้ออกคำสั่งให้ฆาตกรรม คาช็อกจีเมื่อเดือนที่แล้ว
ตามที่เดอะวอชิงตันโพสต์รายงาน เนทันยาฮูได้กล่าวกับทำเนียบขาวว่า มกุฎราชกุมารซาอุฯ เป็นคู่หูทางยุทธศาสตร์ที่สำคัญ และเป็นแกนหลักของแนวร่วมสหรัฐฯ-อิสราเอลในการต่อต้านอิทธิพลของอิหร่านในภูมิภาค
นอกจากนั้นในวันพฤหัสบดียังมีรายงานระบุด้วยว่า บินซัลมานได้พบกับกลุ่มผู้สนับสนุนชาวอิสราเอลในกรุงริยาด ซึ่งนำโดย โจเอล ซี โรเซนเบิร์ก นักเขียนและนักกิจกรรมชาวอเมริกัน-อิสราเอล และไมค์ อีแวนส์ ผู้ก่อตั้งพิพิธภัณฑ์เพื่อนไซอัน (Friends of Zion Museum) ในกรุงเยรูซาเล็ม เป็นหนึ่งในผู้เข้าร่วมประชุมด้วย