เร่งตรวจสอบ หลังนักบินหลายคนแจ้งพบ “ยูเอฟโอ” นอกชายฝั่งไอร์แลนด์

FILE PHOTO. © Pixabay

RT – สำนักงานการขนส่งทางอากาศของประเทศไอร์แลนด์กำลังเร่งตรวจสอบรายงานของนักบินจากหลายสารการบิน ที่ระบุตรงกันว่า พบวัตถุประหลาด “ที่ไม่สามารถระบุได้” บินด้วยความเร็วสูง ก่อนหายไปนอกชายฝั่งประเทศไอร์แลนด์

ยูเอฟโอนี้ถูกพบเห็นคนแรกโดยนักบินสายการบินบริติชแอร์เวย์ เมื่อวันศุกร์ที่ 9 พฤศจิกายน เวลาประมาณ 6:47 น. ตามเวลาท้องถิ่น ขณะที่บินผ่านชายฝั่งทางตะวันตกเฉียงใต้ของไอร์แลนด์

นักบินคนดังกล่าวกำลังทำการบินเครื่องโบอิ้ง 787 จากสนามบินฮีทโธรว์ในกรุงลอนดอน มุ่งหน้าไปยังสนามบินมอลทรีอลล ประเทศแคนาดา นักบินได้สอบถามไปยังหอควบคุมการบินแชนนอน (Shannon Air Traffic Control – ATC) เพื่อสอบถามว่ามีการฝึกซ้อมทางทหารในบริเวณดังกล่าวหรือไม่ หลังได้พบกับปรากฏการณ์ประหลาดดังกล่าว

สามารถฟังการพูดคุยที่บันทึกไว้ 17 นาทีได้ที่นี่

แต่ทางสนามบินแชนนอนระบุว่า ไม่มีการฝึกซ้อมรบทางทหารใดๆ และะเสริมว่า “ไม่ปรากฎข้อมูลใดๆ บนจอเรดาห์ของพวกเขา ทั้งเรดาห์หลักหรือเรดาห์รอง”

“วัตถุดังกล่าวเคลื่อนที่เร็วมาก” นักบินแจ้งกับหอควบคุม “ข้างๆ คุณหรือ?” ผู้ควบคุมถาม นักบินอธิบายว่า ยูเอฟโอปรากฏทางด้านซ้ายของเครื่องบินและ “เลี้ยวไปทางทิศเหนืออย่างรวดเร็ว”

นักบินกล่าวว่าพวกเขาเห็น “แสงไฟสว่างจ้า” แล้ว “หายตัวไปในความเร็วสูงมาก”

ขณะเดียวกัน นักบินของสายการบินเวอร์จิ้น แอร์ไลน์ ซึ่งทำการบินด้วยเครื่องโบอิ้ง 747 ก็ระบุว่า พบเห็นวัตถุดังกล่าวเช่นกัน แต่เขาสันนิษฐานว่าอาจจะเป็นอุกกาบาต หรือวัตถุอื่นๆ ที่ตกหล่นมายังชั้นบรรยากาศของโลก

นักบินของเวอร์จิ้นกล่าวว่า “มีวัตถุหลายชิ้นที่ไปในเส้นทางเดียวกัน” และบอกว่า ที่พวกเขาอยู่มันสว่างจ้ามาก

เมื่อหอควบคุมการบินถามนักบินถึงทิศทางที่วัตถุกำลังมุ่งหน้าไป นักบินเวอร์จิ้น แอร์ไลน์กล่าวว่า อยู่ในตำแหน่ง “สิบเอ็ดนาฬิกา” พร้อมด้วย “ไฟสว่างสองดวงที่อยู่ทางขวา” จากนั้นก็บินไต่ขึ้นสูงไปด้วยความเร็ว นักบินพูดว่า “น่าสนใจมากทีเดียว”

หลังจากนั้นนักบินรายที่สามได้เข้ามาพูดว่า ดีใจที่ไม่ใช่แค่ตนที่พบเห็น และรายงานว่า ยูเอฟโอดังกล่าวว่า บินเร็วมาก ความเร็วเทียบเท่าระดับ มัค 2 (2,500 กิโลเมตรต่อชั่วโมงหรือสองเท่าของความเร็วของเสียง)

ทั้งนี้ รายงานการพบกิจกรรมประหลาดดังกล่าว ได้สร้างความสนใจให้กับสำนักการบินไอร์แลนด์ (Irish Aviation Authority – IAA) ซึ่งระบุว่ากำลังตรวจสอบเรื่องนี้