กฎหมายเพื่อปกป้องผลประโยชน์ของผู้ที่เกี่ยวข้องกับการ “แต่งงานเด็ก” จะถูกนำเข้าสู่รัฐสภาในช่วงกลางปีหน้า “ดร.วันอาซีซะห์ วันอิสมาอีล” รองนายกรัฐมนตรีมาเลเซียกล่าว ตามรายงานของ เดอะสตาร์ สื่อมาเลเซีย
การแก้ไขเพิ่มเติมนี้จะครอบคลุมการแต่งงานทั้งทางกฎหมายแพ่งและกฎหมายศาสนาอิสลาม โดยกำหนดให้มีการยื่นรายงานต่อหน่วยงานที่เกี่ยวข้องก่อนที่การแต่งงานดังกล่าวจะได้รับอนุญาต
“สำหรับการแต่งงานของผู้ที่ไม่ใช่มุสลิม ร่างแก้ไขเพื่อปฏิรูปกฎหมาย (การสมรสและการหย่าร้าง) ปี 1976 (พ.ศ.2519) จะถูกนำเสนอสู่คณะรัฐมนตรีภายในปี 2019”
“การแก้ไขในเรื่องอื่นๆ จะรวมถึงการมีข้อกำหนดเกี่ยวกับรายงานด้านสังคม สุขภาพ และรายงานจากตำรวจกรณีการแต่งงานของผู้ที่ยังไม่บรรลุนิติภาวะ ซึ่งอยู่ภายใต้ขอบเขตอำนาจของกระทรวงมหาดไทย” เธอตอบคำถามในรัฐสภาในวันพฤหัสบดีนี้ (15 พ.ย.)
วันอาซีซะห์ ซึ่งดำรงตำแหน่งทั้งรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีกระทรวงพัฒนาผู้หญิง ครอบครัว และชุมชน กล่าวว่า จะมีการแก้ไขเพิ่มเติมกฏหมายครอบครัวอิสลาม (Federal Territories) ปี 1984 สำหรับการแต่งงานที่ยังไม่บรรลุนิติภาวะภายใต้กฎหมายอิสลาม ที่ต้องส่งรายงานไปยังผู้พิพากษาศาลชารีอะห์ (ศาลกฎหมายศาสนาอิสลาม)
สำหรับปัจจุบัน เธอกล่าวว่า รัฐบาลได้อนุมัติการแต่งงานของผู้ที่ยังไม่บรรลุนิติภาวะ ซึ่งมีขั้นตอนการควบคุมโดยกระทรวงมหาดไทย ศาลชารีอะห์ และศาลจารีตประเพณี
เธอบอกว่า “ขั้นตอนการปฏิบัติงานมาตรฐาน” หรือ “SOP” (standard operating procedure) ของฝ่ายตุลาการชารีอะห์ เกี่ยวกับการแต่งงานของผู้ที่ไม่บรรลุนิติภาวะของชาวมุสลิมได้ถูกส่งไปยังศาลชารีอะห์ทั่วประเทศแล้ว เมื่อวันที่ 23 กรกฎาคม ที่ผ่านมา
“ภายใต้ SOP กรมสวัสดิการ และกรมอนามัย และตำรวจรัฐ ต้องส่งรายงานด้านสังคม สุขภาพ และรายงานจากตำรวจ หากผู้พิพากษาศาลชารีอะห์พบว่า มันจำเป็นสำหรับการพิจารณาในการยื่นขอแต่งงานของผู้ที่ยังไม่บรรลุนิติภาวะ” เธอกล่าวเสริม
ดร.วันอาซีซะห์ กล่าวว่า รายงานฉบับนี้จะมีข้อมูลเกี่ยวกับภูมิหลัง รายได้ สถานะทางสังคม และระดับการศึกษาของผู้ยื่นขอ
“นี่จะช่วยให้ผู้พิพากษาของศาลชารีอะห์ เข้ามามีส่วนร่วมในการตัดสินใจสำหรับปกป้องผู้ที่เกี่ยวข้องกับการแต่งงานที่ยังไม่บรรลุนิติภาวะ” เธอกล่าว
แม้ว่ารัฐบาลกลางได้เสนอว่า อายุต่ำสุดที่สามารถแต่งงานได้ควรกำหนดไว้ที่ 18 ปี แต่ดร.วันอาซีซะห์กล่าวว่า จนถึงขณะนี้ มีเพียงรัฐสลังงอร์ที่ทำเช่นนั้นสองเดือนที่ผ่านมา
เธอเสริมว่า มะละกา, ปีนัง, เคดาห์, ยะโฮร์ และซาบาห์ ได้ระบุความตั้งใจของพวกเขาในการยกอายุขั้นต่ำในการแต่งงานให้ได้ที่อายุ 18 ปี
ดร.วันอาซีซะห์ ยังตอบคำถามในสภาโดยกล่าวกับฝ่ายนิติบัญญัติว่า การสมรสในอังกฤษ แคนาดา และออสเตรเลียกำหนดอายุขั้นต่ำที่ 16 ปี ขณะที่อายุขั้นต่ำยังไม่แน่นอนสำหรับบางรัฐในสหรัฐอเมริกา
การแต่งงานเด็กได้กลายเป็นปัญหาระดับชาติในเดือนกรกฎาคม หลังจากที่มีรายงานว่าชายวัย 41 ปีในรัฐกลันตันได้พาเด็กหญิงอายุ 11 ปีมาเป็นภรรยาคนที่สามของเขา
นอกจากนี้ยังมีรายงานการแต่งงานอีกครั้งที่เมืองทอมกัต รัฐกลันตัน ซึ่งเป็นเด็กหญิงอายุ 15 ปีแต่งงานกับชายที่อายุมากกว่า 30 ปี
เมื่อวันอังคาร (วันพุธที่ 13 พ.ย.) กลุ่มนักกิจกรรมประชาสังคมและนักเรียนโรงเรียนได้ออกมาประท้วงอย่างสันติหน้ารัฐสภาเพื่อกระตุ้นให้รัฐบาลห้ามการแต่งงานเด็ก