อัลจาซีรา/อินดีเพนเดนท์ – ตำรวจอิสราเอลแถลงว่า จากการสืบสวนพวกเขาพบหลักฐานเพียงพอสำหรับการตั้งข้อหารับสินบนและการฉ้อโกง ต่อนายเบนจามิน เนทันยาฮู นายกรัฐมนตรีอิสราเอล และนางซารา เนทันยาฮู ภรรยาของเขา จึงเสนอให้อัยการสั่งฟ้อง
ในแถลงการณ์เมื่อวันอาทิตย์ (2 พ.ย.) ตำรวจระบุว่า คดีนี้เกี่ยวเนื่องกับการที่เนทันยาฮูออกกฎข้อบังคับด้านการสื่อสารโทรคมนาคมที่เอื้อประโยชน์ตอบแทนให้แก่บริษัท เบเซ็ก (Bezeq) กลุ่มบริษัทด้านสื่อสารโทรคมนาคมรายใหญ่ที่สุดของอิสราเอล เพื่อแลกกับนำเสนอข่าวด้านบวกเกี่ยวกับเนทันยาฮูและนางซารา ภริยาของเขา ในเว็บไซต์ข่าววัลลา (Walla) ซึ่งเบเซ็กเป็นเจ้าของ
ด้าน เนทันยาฮูอออกมาปฏิเสธการกระทำผิดกฎหมายใดๆ
“คำเสนอ (ให้สั่งฟ้อง) เหล่านี้ถูกตั้งธงไว้แล้ว และถูกเผยแพร่รั่วออกมาก่อนที่การสืบสวนจะมีขึ้น” นายเนทันยาฮูกล่าวในแถลงเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา
“ผมแน่ใจว่า ในกรณีนี้เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง หลังจากได้สอบสวนกรณีปัญหานี้แล้ว จะได้ข้อสรุปเดียวกัน: ว่ามันไม่มีอะไร ก็เพราะมันไม่มีอะไรเลย”
ขณะนี้อัยการสูงสุดกำลังตัดสินใจว่าว่าจะตั้งข้อหาในกรณีนี้หรือไม่
ถ้าถูกตั้งข้อหา นายกรัฐมนตรีสี่สมัยคนนี้จะต้องเผชิญกับหนึ่งในความท้าทายที่ยิ่งใหญ่ที่สุดต่อความอยู่รอดทางการเมืองของเขา
กรณีเบเซ็กนี้ หรือที่เรียกว่า Case 4000 เป็นข้อกล่าวหาที่ร้ายแรงที่สุดในบรรดาข้อกล่าวหาที่เนทันยาฮูต้องเผชิญ
คนสนิทระดับสูงของเขา 2 คน ได้หันมาเป็นพยานให้รัฐ และเชื่อว่ากรณีนี้ทำให้ตำรวจมีหลักฐานในการฟ้องร้อง
อดีตผู้สื่อข่าวเก่าที่เว็บไซต์ข่าววัลลายืนยันว่ามีการกดดันให้ละเว้นการรายงานเชิงลบของเนทันยาฮู
ตำรวจกล่าวระบุด้วยว่า การสอบสวนซึ่งรวมถึงคำเบิกความของ 60 พยาน ชี้ว่า นายเนทันยาฮู และชาอุล อีโลวิตช์ ผู้ถือหุ้นใหญ่ของเบเซ็ก มีความเกี่ยวข้องกับ “การให้สินบน” ซึ่งตำรวจจะตั้งข้อหาอีโลวิตช์ รวมไปถึงบุคคลในครอบครัวของเขาอีกหลายคนฐานติดสินบน