รูฮานีกร้าว! ถ้าอิหร่านส่งออกน้ำมันไม่ได้ ประเทศอื่นในอ่าวเปอร์เซียก็อย่าคิดหมายส่งออก

© AP Photo / Vahid Salemi

ฝ่ายบริหารของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสรัฐฯ ได้ย้ำหลายครั้งว่า วอชิงตันพยายามลดการส่งออกน้ำมันของอิหร่านให้เป็นศูนย์เพื่อระงับโครงการนิวเคลียร์ของเตหะรานและอิทธิพลในระดับภูมิภาค

อย่างไรก็ตามประธานาธิบดีอิหร่าน “ฮัสซัน รูฮานี” ได้กล่าววันนี้ (อังคาร 4 ธ.ค.) ในสุนทรพจน์ที่ถ่ายทอดสดทางโทรทัศน์ของรัฐว่า “สหรัฐฯ ควรรู้ว่า ถ้าอิหร่านถูกขัดขวางจากการส่งออกน้ำมันแล้ว ก็จะไม่มีประเทศใดที่สามารถทำเช่นนั้นได้จากอ่าวเปอร์เซีย” สปตุนิกสื่อรัสเซียรายงาน

ก่อนหน้านี้ เจ้าหน้าที่ทางการอิหร่านได้ขู่จะตอบโต้มาตรการคว่ำบาตรของสหรัฐฯ ต่อการส่งออกน้ำมันโดยการปิดช่องแคบฮอร์มุซ ซึ่งเป็นเส้นทางยุทธศาสตร์ที่เชื่อมโยงผู้ผลิตน้ำมันดิบตะวันออกกลางเข้ากับตลาดโลกที่สำคัญ

เมื่อไม่นานมานี้รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ “ไมค์ ปอมเปโอ” ยืนยันความมุ่งมั่นของวอชิงตันในการเผชิญหน้ากับภัยคุกคามของอิหร่านโดยการสร้างแรงกดดันในระดับสูงสุดต่อประเทศนี้

เมื่อวันที่ 5 พฤศจิกายนที่ผ่านมา วอชิงตันได้กำหนดข้อบังคับใหม่ด้านพลังงาน การขนส่ง และการเงินของอิหร่าน โดยมีเป้าหมายที่จะลดการส่งออกน้ำมันของอิหร่านให้เหลือศูนย์

รูฮานี ให้คำมั่นที่จะขายน้ำมันต่อไปแม้จะมีมาตการจำกัดที่ “ผิดกฎหมายและไม่ยุติธรรม”

‘ความจริงที่ว่าสาธารณรัฐอิสลามแห่งอิหร่านสามารถขายน้ำมันได้และจะขายน้ำมันดิบของตน … แม้ว่าประเทศเหล่านี้ (ผู้ซื้อ) จะไม่ได้รับการผ่อนผัน เราจะขายน้ำมันของเราด้วยความเคารพ … เราจะทำลายการคว่ำบาตรเหล่านี้ด้วยความเคารพ เนื่องจากมาตรการเหล่านี้เป็นเรื่องที่โหดร้ายและขัดต่อกฎหมายระหว่างประเทศ “เขากล่าวตามที่เพรสทีวีสื่ออิหร่านรายงาน

ฝ่ายบริหารของทรัมป์ ตัดสินใจที่จะให้การผ่อนผันชั่วคราวแก่ 8 ประเทศ ซึ่งจะช่วยให้พวกเขาสามารถนำเข้าน้ำมันอิหร่านต่อไปได้

การคว่ำบาตรดังกล่าวได้ถูกนำมาใช้เมื่อประธานาธิบดีทรัมพ์ตัดสินใจที่จะถอนตัวจากข้อตกลงเจรจานิวเคลียร์ในปี 2015 กับอิหร่าน ภายใต้ข้อจำกัดดังกล่าวการลงโทษรอบแรกมีผลในเดือนสิงหาคม

ผู้ลงนามในข้อตกลงนิวเคลียร์อิหร่านจากประเทศอื่นๆ ได้แก่ รัสเซีย จีน ฝรั่งเศส เยอรมนี และสหราชอาณาจักร ได้ยืนยันถึงความมุ่งมั่นของตนในการรักษาข้อตกลง และพยายามที่จะหลีกเลี่ยงมาตรการของสหรัฐฯ