NBC – ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐฯ ทำเซอร์ไพรส์ด้วยการควงคู่สตรีหมายเลขหนึ่งเดินทางเยือนทหารสหรัฐฯ ในอิรักโดยไม่แจ้งล่วงหน้า เมื่อวันพุธ (26 ธ.ค.) ที่ผ่านมา
โดนัลด์ ทรัมป์ พร้อมภรรยานางเมลาเนีย ทรัมป์ ได้ใช้เวลา 3 ชั่วโมงในการพบปะในพื้นที่กับกองทหารสหรัฐฯ เอกอัครราชทูต และผู้บัญชาการทหาร
ส่วนกำหนดการนัดพบกับนายอะดิล อับดุลมะห์ดี นายกรัฐมนตรีอิรักนั้นถูกยกเลิก โฆษกทำเนียบขาวกล่าวว่า การประชุมไม่ได้เกิดขึ้นเนื่องจากการรักษาความปลอดภัย โดยการเชิญนี้เกิดขึ้นล่วงหน้าเพียงสองชั่วโมง และนายกรัฐมนตรีอิรักไม่สามารถไปถึงที่นั่นได้ทันตามเวลา
ในคำปราศรัยกับเหล่าทหารสหรัฐฯ ทรัมป์กล่าวถึงการตัดสินใจของตนในการถอนทหารออกจากซีเรียและว่าอำนาจทางทหารของอเมริกานั้นถูกเอาเปรียบจากประเทศอื่นๆ
“อเมริกาไม่ควรต่อสู้เพื่อทุกประเทศในโลก โดยไม่ได้รับเงินคืนในหลายๆ กรณีอีกต่อไป หากพวกเขาต้องการให้เราต่อสู้พวกเขาก็ต้องจ่ายราคาค่างวดด้วยเช่นกัน” ทรัมป์กล่าว
การเดินทางเงียบๆ นี้เกิดขึ้นในช่วงเวลาแห่งการเปลี่ยนแปลงในภูมิภาคนี้ตามประกาศของทรัมป์เมื่อต้นเดือนที่ผ่านมาว่าเขาจะถอนทหารอเมริกันออกจากซีเรีย – ซึ่งเป็นการเคลื่อนไหวที่ถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนัก
อย่างไรก็ตามทรัมป์กล่าวว่า เขาไม่มีแผนที่จะถอนทหารสหรัฐฯ ออกจากอิรัก
“ผมคิดว่ามีคนมากมายเริ่มคิดแบบเดียวกับที่ผมคิด มันถึงเวลาสำหรับเราที่ต้องเริ่มใช้สมอง” ทรัมป์กล่าว
ประธานาธิบดีสหรัฐฯ กล่าวว่า เขาได้ขยายเวลาให้เหล่านายพลหลายครั้งแล้วเพื่อดำเนินการในซีเรีย “พวกเขาพูดอีกครั้งเมื่อเร็วๆ นี้ว่า ขอเวลาเราเพิ่มอีกได้ไหม ผมพูดว่า ไม่ คุณไม่มีเวลาอีกแล้ว”
“ สหรัฐฯไม่สามารถเป็นตำรวจโลกต่อไปได้อีก” ทรัมป์กล่าว “มันไม่ยุติธรรม ที่ภาระทั้งหมดตกอยู่ที่เรา…สหรัฐอเมริกา … พวกเรากระจายไปทั่วโลก เราอยู่ในหลายประเทศที่คนส่วนใหญ่ไม่เคยได้ยินแม้แต่ชื่อ พูดกันตรงๆ มันไร้สาระ”