ในวันพฤหัสบดี (3 ม.ค.) “มูฮัมหมัด อะมาร์ นิก อับดุลเลาะห์” รองมุขมนตรีรัฐกลันตัน ประเทศมาเลเซีย อออกมาบอกประชาชนชาวมาเลเซียว่าขออย่าหลงเชื่อข่าวลือว่าพระราชาธิบดีแห่งมาเลเซียจะก้าวลงจากบัลลังก์ เดอะสเตรทไทมส์ สื่อสิงคโปร์รายงาน
อะมาร์ กล่าวกับผู้สื่อข่าวว่า ฝ่ายบริหารของรัฐกลันตันไม่ได้รับข้อมูลใดๆ เกี่ยวกับเรื่องนี้ เดอะสเตรทไทมส์รายงานอ้างเว็บไซต์ข่าวมาเลเชียกินี
เขาตอบคำถามสื่อในโกตาบารู เมืองหลวงของรัฐกลันตัน เกี่ยวกับข่าวลือที่สะพัดในโซเชียลมีเดียว่า สุลต่านมูฮัมหมัด ที่ 5 แห่งรัฐกลันตัน วัย 49 พรรษา จะสละราชสมบัติเร็วๆ นี้ จากบทบาทของพระองค์ในฐานะ ยังดีเปอร์ตวนอากง หรือกษัตริย์ของประเทศมาเลเซียอย่างเป็นทางการ
“ฝ่ายบริหารของรัฐ (กลันตัน) ไม่รู้เรื่องข่าวนี้ ถ้าเป็นข่าวลือ ก็อย่าเชื่อเลย”
“เราไม่ควรแปลกใจ เพราะคนก็พูดไปเรื่อยในข่าวลือ ไม่เพียงแค่เรื่องเกี่ยวกับยังดีเปอร์ตวนอากงเท่านั้น แต่เรื่องรัฐบาลก็ด้วย ดังนั้นอย่าเชื่อข่าวลือนี้” อะมาร์ กล่าวตามรายงานของเว็บไซต์ข่าวมาเลเชียกินี
Messages are going viral that the Sultan of Kelantan will have to step down by 9th January or he will be removed as the Agong. The Sultan of Perak will continue as the Acting Agong for another few weeks until a new Agong is selected. The Rulers are split between Johor and Pahang. pic.twitter.com/0NnGElwkV8
— Raja Petra Kamarudin (@RajaPetra) January 2, 2019
มูฮัมหมัด อะมาร์ ซึ่งเป็นรองประธานพรรคพาส (PAS) ที่ควบคุมสภานิติบัญญัติรัฐรัฐกลันตันกล่าวว่า อัยการสูงสุดควรออกมาหยุดการแพร่ “ข่าวปลอม”
“ มันเป็นหน้าที่ของอัยการสูงสุดที่จะต้องตรวจสอบให้แน่ใจว่าข้อมูลที่ไม่ถูกต้องจะต้องไม่แพร่กระจายในหมู่ประชาชน” เขากล่าว
“เรากำลังพูดถึงสถาบัน ยังดีเปอร์ตวนอากงเป็นสถาบัน สุลต่านเป็นสถาบัน” เขากล่าวเสริม
ทั้งนี้สุลต่านมูฮัมหมัดที่ 5 ได้พักการปฏิบัติหน้าที่พระราชาธิบดีตั้งแต่วันที่ 2 เดือนพฤศจิกายน เพื่อ “รักษาตัว” สำนักข่าวเบอร์นามารายงาน
ในช่วงปลายเดือนพฤศจิกายน รายงานของสื่อหลายสำนักระบุว่า พระองค์ได้แต่งงานกับอดีตนางงามรัสเซีย ที่ชื่อ “อ็อกซานา วอยโวดีนา” (Oksana Voevodina) ในกรุงมอสโก
เมื่อถูกถามเกี่ยวกับเรื่องดังกล่าวในเวลานั้น นายกรัฐมนตรีมหาเดร์ มูฮัมหมัด กล่าวว่าเขาไม่ทราบเรื่องนี้อย่างเป็นทางการ
“ผมไม่รู้ ผมยังไม่ได้รับการยืนยันอย่างเป็นทางการใดๆ ดังนั้นผมจึงไม่สามารถพูดอะไรได้” เขากล่าว
ในช่วงที่สุลต่านมูฮัมหมัดที่ 5 พักการปฏิบัติหน้าที่นั้น สุลต่านแห่งเปรัค สุลต่านนัซรินชาห์ วัย 62 รองพระราชาธิบดีตามรัฐธรรมนูญของมาเลเซียเป็นผู้ปฏิบัติหน้าที่แทน
ภายใต้ระบบการหมุนเวียนกันขึ้นมาเป็นพระราชาธิบดีที่เป็นเอกลักษณ์ของมาเลเซียในหมู่ราชวงศ์มลายูทั้งเก้า สุลต่านจึงจะได้รับการแต่งตั้งให้เป็นอากง หรือพระราชาธิบดีทุกๆ ห้าปี
สุลต่านมูฮัมหมัด ที่ 5 จากรัฐกลันตัน ได้รับการประกาศให้เป็นราชาธิบดีองค์ที่ 15 ของมาเลเซียในเดือนธันวาคม 2016
การคาดการณ์เกี่ยวกับการสละราชสมบัติดูเหมือนว่าจะกลายเป็นประเด็นร้อนขึ้นในไม่ช้าหลังจากการประชุมประจำสัปดาห์ของที่ประชุมผู้ปกครอง สมาชิกของที่ประชุมนี้คือ มุขมนตรี 13 รัฐของมาเลเซีย – สุลต่านทั้งเก้า และผู้ว่าการรัฐสี่คน (ปีนัง, มะละกา, ซาบาห์, ซาราวัค)
ดร.มหาเดร์ มูฮัมหมัด ได้เพิ่มกระแสข่าวลือให้หนักเข้าไปอีก เมื่อเขาได้เขียนโพสต์ที่คลุมเคลือในบล็อกของเขาในชื่อเรื่อง “Rule of Law” (หลักนิติธรรม) โดยกล่าวว่า ชาวมาเลเซียทุกคนรวมถึงสุลต่านต้องปฏิบัติตามกฎหมาย
“หลักนิติธรรมนั้นบังคับใช้กับทุกคน ตั้งแต่ผู้ปกครองถึงนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรี ทั้งต่อข้าราชการและประชาชนทั่วไป” เขากล่าว
“ไม่มีข้อกำหนดที่ยกเว้นใครจากหลักนิติธรรม สำหรับผู้ปกครองมีศาลพิเศษ แต่กฎหมายก็เหมือนกับกฎหมายที่ใช้บังคับกับประชาชนคนธรรมดา ผู้ปกครองก็ต้องเคารพกฎหมายด้วย”
เขาไม่ได้อธิบายว่าเขาหมายถึงอะไรโดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อเขาเขียนในประโยคถัดไป: “มันสร้างความรบกวนที่จะมองดูการละเมิดกฎหมายอย่างโจ่งแจ้ง ซึ่งถูกปั่นหัวด้วยความเชื่อที่ผิดว่า ตนเองมีภูมิคุ้มกัน(ทางกฎหมาย)“
ข่าวที่เกี่ยวข้อง : สะพัดโซเชียลมาเลย์! สุลต่านรัฐกลันตัน แต่งงานกับนางงามมอสโก ที่รัสเซีย