สถานทูตซาอุดิอาระเบียประจำประเทศไทยปฏิเสธ ไม่เคยร้องขอใดๆ ให้ประเทศไทยส่งมอบตัว “ราฮาฟ โมฮัมหมัด อัลกูนูน” หญิงสาววัยรุ่นซาอุฯ ให้กับทางริยาด อาร์ทีภาคภาษาอาหรับรายงานอ้างสำนักข่าวเอเจนซี่
สถานทูตซาอุดิอารเบียในประเทศไทยกล่าวว่า เด็กวัยรุ่นหญิงไม่มีข้อจำกัดใดซึ่งกำหนดให้ทางการไทยต้องส่งตัวเธอกลับ
สถานทูตระบุว่า จากการติดต่อกับพ่อของหญิงสาว พบว่าหนังสือเดินทางของเธอไม่ได้ถูกยึด และเน้นว่าทางสถานทูตไม่มีอำนาจในการกักตัวราฮาฟที่สนามบินหรือที่อื่นใด
ราฮาฟ อายุ 18 ปี เดินทางมาถึงกรุงเทพฯ จากคูเวต และบอกว่าเธอกลัวครอบครัวของเธอจะฆ่าเธอถ้าเธอถูกบังคับส่งตัวกลับประเทศ
ราฮาฟอยู่ในช่วงวันหยุดกับครอบครัวของเธอในคูเวต และได้หนีออกจากที่นั่นเพื่อไปออสเตรเลีย
เธอขังตัวเองอยู่ในห้องพักโรงแรมที่สนามบินสวรรณภูมิ กรุงเทพฯ เพื่อหลีกเลี่ยงการถูกเนรเทศโดยทางการไทย และกล่าวว่านักการทูตซาอุดิอาระเบียได้พบเธอที่สนามบินเมื่อวันอาทิตย์ (6 ม.ค.) และยึดหนังสือเดินทางเธอไป และยืนยันว่าเธอมีวีซ่าไปออสเตรเลียและไม่ต้องการอยู่ในประเทศไทย
เพื่อแสดงเหตุผลอันสมควร เธอกล่าวว่า เธอละทิ้งศาสนาอิสลาม และกลัวว่าเธอจะถูกบังคับให้ต้องกลับไปยังซาอุดิอาระเบีย และครอบครัวจะฆ่าเธออย่างแน่นอน
based on the 1951 Convention and the 1967 Protocol, I'm rahaf mohmed, formally seeking a refugee status to any country that would protect me from getting harmed or killed due to leaving my religion and torture from my family.
— Rahaf Mohammed رهف محمد (@rahaf84427714) January 6, 2019
“ตามอนุสัญญา 1951 และพิธีสาร 1967 ฉัน ราฮาฟ โมฮัมเหม็ด อย่างเป็นทางการ กำลังแสวงหาสถานภาพผู้ลี้ภัยยังประเทศใดๆ ที่จะปกป้องฉันจากการถูกทำร้ายหรือถูกฆ่า อันเนื่องจากการละทิ้งศาสนา (อิสลาม) และการทรมานจากครอบครัวของฉัน” ราฮาฟทวีตเมื่อวันที่ 7 ม.ค. 2562
ราฮาฟได้ออกจากห้องพักที่โรงแรมสนามบินสุวรรณภูมิแล้วหลังจากได้รับอนุญาตให้เข้าประเทศไทยชั่วคราว โดยอยู่ภายใต้การดูแลของสำนักงานข้าหลวงใหญ่ผู้ลี้ภัยแห่งสหประชาชาติ (UNHCR)