รัสเซียใช้การเงินอิสลามแก้วิกฤตเศรษฐกิจ นำร่างกฎหมายเข้าสภา จ่อยกเลิกมาตรการที่เป็นอุปสรรค

(ภาพ) สมาชิกสภาดูม่า (the State Duma) หรือสภาผู้แทนราษฎร ฟังรัฐมนตรีต่างประเทศของรัสเซีย เซอร์จี้ ลาฟรอฟ ที่เห็นในจอ ก่อนการลงคะแนนในวาระที่ 2 ในมอสโก รัสเซีย เมื่อ 20 มีนาคม 2014


 

อัลอะราบิยา, รอยเตอร์ – ผู้แทนราษฎรของรัสเซียนำร่างกฎหมายเพื่อสนับสนุนการเงินอิสลามเข้าสู่สภา โดยมีเป้าหมายเพื่อดึงดูดการไหลเข้าของเงินทุนในช่วงเวลาที่การชะลอตัวทางเศรษฐกิจกำลังรุนแรงขึ้น และไม่มีสัญญาณว่ามาตรการคว่ำบาตรจากตะวันตกจะถูกยกเลิกไป

ร่างกฎหมายฉบับนี้ ซึ่งถูกส่งให้แก่สภาผู้แทนราษฎรสัปดาห์ที่ผ่านมา มีเป้าหมายเพื่ออนุญาตให้ธนาคารมีส่วนร่วมในกิจกรรมทางการค้า เป็นแนวคิดที่เป็นจุดศูนย์กลางของหลายๆ โครงสร้างที่ใช้ในผลิตภัณฑ์ทางการเงินที่สอดคล้องกับหลักชารีอะฮ์

ขณะที่อุปสรรคอื่นๆ ยังคงมีอยู่อีกมากมาย กฎหมายฉบับนี้จะเป็นก้าวแรกที่จะกระตุ้นการพัฒนาในภาคส่วนนี้ ที่ได้สร้างการเจริญเติบโตขึ้นสองหลักในหลายๆ ประเทศในตะวันออกกลางและเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ แต่ต้องใช้ความพยายามในการเริ่มต้นดำเนินการในรัสเซีย

แทนการคิดดอกเบี้ย ซึ่งเป็นสิ่งต้องห้ามตามหลักศาสนา การเงินแบบอิสลามอาศัยการคิดค่าธรรมเนียมการให้บริการและผู้ฝากมีส่วนร่วมในผลกำไรของธนาคาร ตุรกีเป็นอีกประเทศหนึ่งที่กำลังจะขยายในภาคส่วนนี้

“ในช่วงของการปิดกั้นทางเศรษฐกิจทั้งหมดในทางปฏิบัติจากยุโรปและสหรัฐฯ ธนาคารของเราต้องหาวิธีการใหม่ๆ เพื่อดึงดูดการลงทุน” ดิมิทรี ซาเวลเยฟ คณะกรรมการตลาดการเงินของสภาดูม่ากล่าว

มาตรการคว่ำบาตรที่ตะวันตกใช้กับเจ้าหน้าและบริษัทขนาดใหญ่ของรัสเซียเนื่องจากบทบาทของรัสเซียในวิกฤตยูเครน ทำให้ขาดสภาพคล่องในการเข้าถึงตลาดเงินทุนระหว่างประเทศ ความเสียหายในราคาน้ำมันยิ่งทำให้เกิดการชะลอตัวในด้านเศรษฐกิจ ซึ่งคาดว่าจะหดหายไปอย่างน้อย 3 เปอร์เซ็นต์ในปีนี้

ร่างกฎหมายฉบับนี้จะต้องผ่านการพิจารณาในสภาดูม่าสามวาระก่อนที่จะเข้าสู่สภาสูง และถูกส่งไปยังประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน เพื่อลงนามใช้เป็นกฎหมาย

ผู้แทนราษฎรจะต้องผ่านการแปรญัตติในเรื่องต่างๆ เช่นการเก็บภาษี ก่อนที่ภาคส่วนนี้จะสามารถพัฒนาได้อย่างเต็มที่ ผู้เชี่ยวชาญกล่าวว่า ความเปลี่ยนแปลงครั้งนี้น่าจะใช้เวลาอย่างน้อยหนึ่งปีจึงจะผ่านได้

ธนาคารเพื่อการพัฒนาของรัฐ Vnesheconombank และธนาคาร VTB ซึ่งได้รับผลกระทบจากการคว่ำบาตร พยายามที่จะสร้างโนว์ฮาว(ความรู้เชิงขั้นตอน) เกี่ยวกับการเงินแบบอิสลามขึ้นเพื่อช่วยในการพัฒนาแหล่งเงินทุนใหม่

แรงกระตุ้นหนึ่งสำหรับความพยายามล่าสุดนี้ก็คือ รัสเซียกำลังจะเปลี่ยนความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจของตนออกไปจากตลาดตะวันตก ลีนาร์ ยาคูพอฟ หัวหน้าสมาคมตัวแทนการลงทุนระดับภูมิภาคของสหพันธรัฐรัสเซียกล่าว

“นี่คือพื้นที่ที่การคว่ำบาตรในปัจจุบันได้กลายมาเป็นตัวเร่ง เป็นแรงผลักดันพิเศษ เพื่อส่งเสริมการพิจารณามุมมองทางเศรษฐกิจในด้านความสัมพันธ์ระหว่างรัสเซียกับประเทศโอไอซี (องค์กรความร่วมมืออิสลาม)” เขากล่าวในการให้สัมภาษณ์ที่บาห์เรน

การเงินอิสลามสามารถดึงดูดการลงทุนต่างชาติได้ และยังระดมเงินทุนจากมุสลิม 20 ล้านคนของรัสเซียอีกด้วย ยาคูพอฟกล่าว

 

เจตนารมณ์ทางการเมือง

กฎหมายเป็นสิ่งสำคัญในการอำนวยความสะดวกแก่การทำธุรกรรมทางการเงินแบบอิสลาม ที่สามารถดึงดูดผู้มีหน้าที่จ่ายภาษีได้สองหรือสามเท่า เพราะพวกเขาจำเป็นต้องถ่ายโอนสินทรัพย์ที่สำคัญหลายครั้ง เป็นการดำเนินการที่หลายๆ ประเทศเช่นอังกฤษ และลักเซ็มเบิร์กได้กล่าวถึง

“มันเป็นไปได้ในทางทฤษฎีและตามหลักวิชาการสำหรับการที่รัฐบาลจะจัดเตรียมกฎหมายเกี่ยวกับการธนาคารแบบอิสลาม แต่ทั้งหมดนั้นก็ขึ้นอยู่กับเจตนารมณ์ทางการเมือง” มูรอด อลิสเครอฟ กล่าว เขาเป็นผู้บริหารของ LaRiba Finance บริษัทการเงินอิสลามที่ตั้งอยู่ในสาธารณรัฐดาเกสถานของรัสเซีย

“ธนาคารอิสลามสามารถสร้างผลกระทบทางสังคมอย่างใหญ่หลวง และเป็นทางเลือกหนึ่งสำหรับธนาคารเพื่อการค้า”

ขณะนี้กำลังมีการศึกษาความเป็นไปได้ระหว่างกลุ่มนักลงทุนชาวรัสเซียและมาเลเซีย เพื่อสร้างธนาคารอิสลามแบบเดี่ยว หรือหน่วยงานอิสลามขึ้นภายในสถาบันให้สินเชื่อของรัสเซีย ยาคูพอฟกล่าว

การศึกษานี้จะมีความพร้อมภายในเดือนกันยายน ทำให้ทั้งสองฝ่ายสามารถจัดทำรายละเอียดที่ชัดเจนเพื่อสร้างองค์กรดังกล่าวขึ้นมา และประเมินว่าจะต้องเปลี่ยนแปลงกฎหมายใดบ้าง เขากล่าว

บริษัทต่างๆ มีความกระตือรือร้นในการศึกษาเกี่ยวกับพันธบัตรอิสลาม (ตราสารศุกูก) เพื่อเป็นเครื่องมือทางการเงินอีกทางหนึ่ง โดยที่สาธารณรัฐทาทาร์สถานของรัสเซียกำลังจะเป็นเจ้าภาพการประชุมอุตสาหกรรมในเดือนหน้า โดยเน้นไปในเรื่องตราศาลดังกล่าว

ผลกระทบอาจขยายไปถึงสาธารณรัฐของอดีตโซเวียตในเอเชียกลาง กำลังมีการผลักดันข้อเสนอเพื่อสร้างกลุ่มทำงานระดับภูมิภาคขึ้นมาเพื่อร่วมมือในความพยายามทางการเงินอิสลามกับประเทศต่างๆ เช่น คาซัคสถาน, ทาจิกิสถาน และคีร์กีสถาน