ในปี 2018 ทหารตุรกีเข้าสู่ประเทศซีเรียและบุกเข้าเมืองอาฟรินเพื่อปฏิบัติการ “โอลีฟบรันช์” (Olive Branch) หรือ “ก้านมะกอก” เพื่อต่อต้านกองกำลังชาวเคิร์ดซีเรีย ซึ่งอังการากล่าวหาว่าพวกเขาร่วมมือกับพรรคแรงงานเคอร์ดิสถาน (PKK) ที่เป็นองค์กรก่อการร้ายของตุรกี
สมาชิกฝ่ายนิติบัญญัติของสวิส “แบร์นฮาร์ด กูล” (Bernhard Guhl) ซึ่งเป็นตัวแทนจากพรรคอนุรักษ์นิยมประชาธิปไตย ได้แจ้งเจ้าหน้าที่ทางการสวืสว่า ประเทศตุรกีอาจส่งออกน้ำมันมะกอกที่ถูกปล้นในซีเรียในปฏิบัติการทางการทหารที่นั่น แต่จากนั้นเขาเปลี่ยนมาใช้ว่าเป็นชาวตุรกี น้ำมันถูกนี้กล่าวหาว่าได้เข้าสู่ยุโรปรวมถึงสเปน เทเลกราฟสื่ออังกฤษรายงาน
“ในอาฟริน เขตยึดครองของชาวตุรกี สวนมะกอกกำลังถูกปล้นทั้งจากกองกำลังตุรกีและกองทหารอาสาสมัครที่พวกเขาสนับสนุน มะกอกที่ขโมยมาถูกขายให้กับสเปน และการขายก็ยังดำเนินต่อไป” เขากล่าว
"The Telegraph" berichtet über meinen Vorstoss über die von der #Türkei in #Syrien geraubten #Oliven. Turkey accused of plundering olive oil from Syria to sell in the EU https://t.co/2sYZJnxw3D via @TelegraphNews
— Bernhard Guhl (@BernhardGuhl) January 16, 2019
ตามที่สมาชิกฝ่ายนิติบัญญัติของสวิสคนนี้ระบุ รายได้จากการน้ำมันมะกอกที่ปล้นมานี้ไหลกลับไปยังกองทหารอาสาสมัครที่ตุรกีสนับสนุนในซีเรีย และเขากำลังเคลื่อนไหวเรื่องนี้ในสภาของสวิส
“ไม่สำคัญว่าปลายทางสุดท้ายคือสเปนหรือเยอรมนี แต่ผมเชื่อว่ามันเป็นเรื่องสำคัญมากที่ประเทศนี้หรือประเทศใดๆ ที่เกี่ยวข้องจะต้องเริ่มทำการสอบสวนทางอาญาเพื่อตรวจสอบบริษัทที่กำลังทำการค้าขายมะกอกหรือน้ำมันมะกอกที่ถูกขโมยมา” เขากล่าว
ข้อกล่าวหาดังกล่าวถูกเปิดออกมาสู่สาธารณะโดยสกู๊ปข่าวสอบสวนของหนังสือพิมพ์ออนไลน์สเปน El Público และสำนักข่าวตุรกี Firat ซึ่งรายงานว่าพวกเขาได้รับเอกสารของรัฐบาลตุรกีในเรื่องนี้