เพรสทีวี – แอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนล เตือนว่า ชาวอียิปต์กำลังเผชิญกับการปราบปรามเสรีภาพในการแสดงออกภายใต้การบริหารของประธานาธิบดีอับเดลฟัตตาห์ อัล-ซีซี่ พร้อมบอกว่า อียิปต์ในวันนี้ได้กลายเป็น “คุกเปิด” สำหรับผู้คัดค้าน
ภายใต้การบริหารของซีซี่ “อียิปต์ได้ถูกแปลงให้เป็นคุกกลางแจ้งสำหรับนักวิจารณ์” แอมเนสตี้กล่าวในแถลงการณ์เมื่อวันพฤหัสบดี (24 ม.ค.) ที่ผ่านมา เนื่องในวันตำรวจแห่งชาติของประเทศอียิปต์ และเสริมว่า “”พื้นที่สำหรับคัดค้าน กำลังถูกบดขยี้ให้ดับสูญ”
นอกจากนั้น วันที่ 25 มกราคม ก็ยังเป็นจุดเริ่มต้นของการปฏิวัติในปี 2554 ซึ่งนำไปสู่การไล่ตามอดีตเผด็จการ “ฮอสนี มุบารัก”
“ วันนี้ การที่จะวิพากษ์วิจารณ์รัฐบาลในอียิปต์อย่างเปิดเผย มันเป็นสิ่งที่อันตรายมากกว่าเวลาใดๆ ในประวัติศาสตร์อันใกล้ของประเทศนี้” นาเจีย โบเนียม (Najia Bounaim) ผู้อำนวยการฝ่ายแคมเปญแอฟริกาเหนือของแอมเนสตี้ กล่าว
แอมเนสตี้กล่าวเพิ่มเติมว่า ทางการอียิปต์จับกุมประชาชนอย่างน้อย 113 คนในช่วงปี 2018 เนื่องจาก “แสดงความคิดเห็นอย่างสันติ”
ในฐานะผู้นำกองทัพ ซีซี่เป็นผู้นำการรัฐประหารต่อต้านประธานาธิบดีโมฮาเหม็ด มอร์ซี ที่ได้รับการเลือกตั้งเป็นครั้งแรกของประเทศนี้ ซึ่งได้เข้ามามีอำนาจหลังจากขับไล่มูบารักและล้มล้างเขาในวันที่ 3 กรกฎาคม 2013
กลุ่มสิทธิมนุษยชนได้วิพากษ์วิจารณ์รัฐบาลของซีซี่มาโดยตลอดต่อการปราบปรามนักเคลื่อนไหวฝ่ายค้านและผู้สนับสนุนขบวนการภราดรภาพมุสลิมของมอร์ซีซึ่งถูกแบนในประเทศอียิปต์
พวกเขากล่าวว่า การปราบปรามของกองทัพต่อกลุ่มภราดรภาพและผู้สนับสนุนได้ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตกว่า 1,400 คน มีผู้ถูกจับกุมราว 22,000 คน รวมถึงผู้คนกว่า 200 คนที่ถูกตัดสินประหารชีวิต
แอมเนสตี้กล่าวเพิ่มเติมว่า “ในปีที่ผ่านมาคนที่กล้าวิพากษ์วิจารณ์รัฐบาลถูกจับกุมและถูกส่งตัวเข้าคุก มักจะถูกขังเดี่ยวหรือถูกบังคับให้หายตัวไปเพียงเพราะโพสต์ความคิดเห็นของพวกเขาในโซเชียลมีเดีย ให้สัมภาษณ์สื่อ ประณามการคุกคามทางเพศ และสนับสนุนสโมสรฟุตบอลบางแห่ง ในบางกรณีผู้ที่ถูกจับกุมไม่ได้ทำอะไรเลย”