ศาสตราจารย์ มูฮัมหมัด ยูนุส นักเศรษฐศาสตร์จากประเทศบังกลาเทศ เยือนพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้

ต่อมาในช่วงบ่าย คณะฯได้มีการลงพื้นที่เยี่ยมมัสยิดกลางจังหวัดปัตตานี เพื่อพบปะคณะกรรมการอิสลามประจำจังหวัดปัตตานี จากนั้นได้เดินทางต่อไปยังโรงแรมซีเอส จังหวัดปัตตานี เพื่อพบปะคณะผู้บริหารของสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ โดยมี นายไกรศร วิศิษฎ์วงศ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดปัตตานี นายอนุชิต ตระกูลมุทุตา ผู้ว่าราชการจังหวัดยะลานายเอกรัฐ  หลีเส็น ผู้ว่าราชการจังหวัดนราธิวาส พร้อมด้วย ผู้แทนจาก กอ.รมน. ผู้แทนด้านศาสนาจากมัสยิดกลาง จ.ปัตตานี และผู้แทนจากหน่วยงานเกี่ยวข้องเข้าร่วมให้การต้อนรับ โดยได้มีการพบปะแลกเปลี่ยนความคิดเห็นในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจฐานรากในพื้นที่ จชต. รวมถึงการขับเคลื่อนตามโครงสร้างการพัฒนาจังหวัดชายแดนภาคใต้ในมิติใหม่แบบไร้รอยต่อ เพื่อให้เกิดการเชื่อมโยงระเบียงเศรษฐกิจใน 14 เขตพื้นที่ ที่จะมีขึ้นในอนาคต

พลเรือตรี สมเกียรติ ผลประยูร  รักษาราชการแทนเลขาธิการ ศอ.บต. กล่าวว่า เป็นโอกาสดีที่ทุกท่านจะได้พบกับท่านศาสตราจารย์ มูฮัมหมัด ยูนุสซึ่งถือเป็นบุคคลสำคัญระดับโลกอีกท่าน ซึ่งคนทั่วโลกรู้จักท่านในฐานะนักพัฒนาที่ยกระดับชีวิตคนจน ด้วยการเปิดธนาคารคนจนในประเทศบังกลาเทศ และพัฒนาฐานรากในการสร้างงานสร้างอาชีพให้กับผู้คนในระดับรากหญ้าให้เข้าถึงแหล่งเงินทุนจนเป็นที่รู้จักของคนทั้งโลก โดยในปัจจุบันกว่า 40 ประเทศทั่วโลกได้นำแนวทางของท่านไปปรับใช้ วันนี้จึงเป็นโอกาสที่ดีมากที่เราทุกคนจะได้มีโอกาสต้อนรับท่าน โดยต้องขอบคุณ รศ.ดร.บดินทร์ รัศมีเทศ  ผอ.ศูนย์ยูนุสธุรกิจเพื่อสังคมแห่งประเทศไทย มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ที่ได้มีการพูดคุยจนมีโอกาสได้นำท่านและคณะมาเยี่ยมเยียนสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ในครั้งนี้ ซึ่งการเยือนในครั้งนี้จะเป็นประโยชน์ต่อการพัฒนาจังหวัดชายแดนภาคใต้เป็นอย่างมาก

ด้าน ศาสตราจารย์ มูฮัมหมัด ยูนุส เจ้าของรางวัลโนเบลสาขาสันติภาพและผู้ก่อตั้ง ธนาคาร กรามีน ได้กล่าวว่าต้องขอบคุณทุกท่านที่ให้การต้อนรับตนเองและคณะอย่างอบอุ่น ซึ่งถือว่าเป็นเกียรติอย่างที่สุดในการที่ได้เดินทางมาที่สามจังหวัดชายแดนภาคใต้ในครั้งนี้ โดยจังหวัดชายแดนภาคใต้ถือเป็นพื้นที่ที่สวยงามมาก และมีภูมิประเทศที่อุดมไปด้วยทรัพยากร โดยสิ่งแรกที่คิดคือการสร้างโอกาสให้ประชาชนได้เข้าถึงพื้นฐานด้านการพัฒนาเศรษฐกิจ ซึ่งเชื่อว่า ไม่มีสิ่งใดที่มนุษย์ทำไม่ได้หากมีความตั้งใจก็จะประสบความสำเร็จ โดยได้เริ่มต้นจากจุดเล็กๆในประเทศบังกลาเทศ คือการเปิดธนาคารกรามีน หรือธนาคารชนบท สำหรับการปล่อยเงินกู้ยืมให้กับประชาชนในระดับรากหญ้าหรือผู้ที่มีฐานะยากจน

โดยแต่เดิมประเทศบังกลาเทศประสบปัญหาการว่างงาน  ประชาชนขาดแคลนรายได้ ซึ่งสิ่งที่ตนเองคิดคือการที่ทำไมธนาคารถึงไม่มีการปล่อยเงินทุนให้แก่คนจน และให้เงินทุนเกิดการหมุนเวียนในระบบฐานเศรษฐกิจ เพราะจะได้เป็นการสร้างอาชีพ และยกระดับคุณภาพชีวิตของคนเหล่านั้น เมื่อประชาชนมีอาชีพ อยู่ดีกินดี แน่นอนที่สุดว่าธนาคารก็จะได้สิ่งที่ตอบรับกลับมาด้วย ซึ่งจากที่กล่าวมาในทุกๆประเทศก็ประสบปัญหาเดียวกัน คือการมีอัตราการว่างงานสูง ประชาชนหรือเยาวชน ต่างก็อพยพไปอยู่ในเมืองใหญ่ จึงทำให้ชนบทเกิดความว่างเปล่า ฉะนั้นสิ่งที่ต้องการให้เกิดขึ้นคือ การให้โอกาสด้วยการสร้างงานมากกว่าการให้ประชาชนออกไปหางานจากข้างนอก โดยที่ตนเองมั่นใจว่า สามจังหวัดชายแดนภาคใต้สามารถประสบความสำเร็จได้อย่างรวดเร็วเพราะเมื่อเทียบกับจำนวนประชากรและทรัพยากรของประเทศบังกลาเทศแล้วสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ยังมีโอกาสพัฒนาสูง ดังนั้นการมาเพื่อแชร์ประสบการณ์ในครั้งนี้เพื่อต้องการให้พื้นที่แห่งนี้ประสบความสำเร็จ และให้เป็นประเทศที่มีความสุข ประชาชนอยู่ดีกินดีบนพื้นฐานการมีเศรษฐกิจที่ดีตลอดไป

อย่างไรก็ตาม  ศาสตราจารย์ มูฮัมหมัด ยูนุส และคณะ มีกำหนดปฏิบัติภารกิจในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ระหว่างวันที่ 27 และ 28 มกราคม พ.ศ. 2562 โดยมีภารกิจหลักคือการบรรยายปาฐกฐาพิเศษในหัวข้อ  “แนวทางการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมจากฐานล่างสู่สันติภาพยั่งยืน”  ในวันที่ 28 มกราคม 2562 ให้แก่ข้าราชการ และผู้แทนองค์กรในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ที่ ศูนย์ราชการจังหวัดชายแดนภาคใต้ตอนล่าง และจะมีการลงเยี่ยมเยียนในพื้นที่สำคัญต่างๆของจังหวัดชายแดนภาคใต้ต่อไป