ชาวอุยกูร์เรียกร้องบินซัลมาน ประณามการข่มเหงชนกลุ่มน้อยมุสลิม ในระหว่างการเยือนจีน

เด็กชายสวมหน้ากากที่มีน้ำตาเลือดระหว่างการประท้วงของชาวชาติพันธุ์อุยกูร์ในกรุงบรัสเซลส์ ขอให้สหภาพยุโรปกดดันจีนให้ปิด 'ศูนย์การศึกษาใหม่' (AFP / ไฟล์ภาพ)

MEE – ประวัติศาสตร์จะพิพากษาเจ้าชายโมฮัมเหม็ด บินซัลมาน (MBS) ของซาอุดิอารเบียสำหรับการนิ่งเงียบเมื่อเผชิญกับการปฏิบัติของจีนต่อชาวมุสลิมอุยกูร์หลายล้านคนในจังหวัดซินเจียง

นั่นคือข้อความ “โอเมอร์ คานัต” (Omer Kanat) ผู้อำนวยการโครงการสิทธิมนุษยชนอุยกูร์ (Uyghur Human Rights Project) ซึ่งเป็นองค์กรสิทธิอุยกูร์ชั้นนำในสหรัฐอเมริกาที่ต้องการส่งถึงเจ้าชายบินซัลมาน ในฐานะผู้นำซาอุดิอาระเบียในการเยือนกรุงปักกิ่งเป็นเวลาสองวันในสัปดาห์นี้

“ในขณะที่พรรคคอมมิวนิสต์บุกมัสยิด และกำจัดสัญลักษณ์จันทร์เสี้ยวและดาวออกจากสุเหร่า  ผู้นำมุสลิมทุกคนต้องถามคำถามที่หนักอึ้งนี้” คานัตกล่าวกับสำนักข่าว MEE ในวันพฤหัสบดี (21 ก.พ)

หลังจากการเดินทางไปเยือนปากีสถานและอินเดียในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา บินซัลมานก็เดินทางไปปักกิ่งสำหรับการเจรจาที่มีแนวโน้มที่จะมุ่งเน้นไปที่พลังงาน เนื่องจากความสัมพันธ์ทางการค้าระหว่างซาอุดิอาระเบียและจีนที่ขยายตัว

ประเทศจีนเป็นคู่ค้าที่ใหญ่ที่สุดของซาอุฯ โดยซาอุดิอาระเบียนำเข้าจากประเทศจีนมีมูลค่ารวมประมาณ 46 พันล้านเหรียญเมื่อปีที่แล้ว

ถึงกระนั้นปัญหาชาวอุยกูร์ก็ยังไม่น่ามีส่วนร่วมในวาระนี้

ปีเตอร์ เออร์วิน (Peter Irwin) ผู้จัดการโครงการ สภาชาวอยุกุร์โลก (Uyghur World Congress) ซึ่งตั้งอยู่ที่เมืองมิวนิค ประเทศเยอรมนีกล่าวว่า สมาชิกของชาวอุยกูร์พลัดถิ่นไม่คิดว่า บินซัลมานจะแจ้งปัญหานี้กับประธานาธิบดีจีน สี จินผิง แต่การไม่ทำเช่นนั้นจะเป็นการดูถูกมุสลิมทั่วโลก 

“มันจะเป็นการดูหมิ่นศักดิ์ศรีของชาวมุสลิม หากผู้นำของประเทศที่ได้รับมอบหมายให้ดูแลสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ในศาสนาอิสลาม จะยังคงนิ่งเงียบต่อการควบคุมตัวโดยพลการต่อมุสลิมอย่างน้อยหนึ่งล้านคน ที่ถูกกำหนดเป้าหมายเพราะ (พวกเขา) ยึดมั่นในศาสนาอิสลาม” เขากล่าว

เออร์วินกล่าวว่า เป็นเรื่องสำคัญที่จะต้องทราบว่า ชาวอุยกูร์ในเขตปกครองตนเองซินเจียงอุยกูร์ของจีน ซึ่งเป็นพื้นที่ที่พวกเขาอ้างว่าเป็นชาว เตอร์กิสถานตะวันออก “ถูกจำคุกในประเทศจีนเป็นเวลาหลายปี เพียงเพื่อเดินทางไปซาอุดิอาระเบีย .