เวทียาง3ชาติ จ่อลดส่งออก2-3แสนตัน ดันราคาตลาดโลก

ภาพจากเฟซบุ๊ค ยางพารา

“ไทย-อินโดนีเซีย-มาเลเซีย จ่อลดส่งออกยาง 2-3 แสนตัน เพื่อดันราคาตลาดโลก พร้อมตั้งสภาการยางแห่งอาเซียน

นายกฤษฏา บุญราช รมว.เกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยผลประชุมระดับรัฐมนตรีสภาไตรภาคียางระหว่างประเทศ เมื่อวันที่ 22 กุมภาพันธ์ ว่า เป็นการประชุมร่วมกัน 3 ประเทศ ประกอบด้วย ไทย อินโดนีเซีย มาเลเซีย ในที่ประชุมหารือถึงมาตรการแก้ปัญหาราคายาง 5 มาตรการเพื่อทำให้ราคามีเสถียรภาพ โดยได้ข้อยุติร่วมกันที่จะจัดตั้งคณะกรรมการอาวุโส ขึ้นมาโดยเฉพาะในมาตรการจำกัดยางส่งออก จำนวน 2-3 แสนตัน ส่วนระยะเวลาช่วงใด คณะเจ้าหน้าที่ฝ่ายเทคนิค จะประชุมกันที่ จ.สงขลา ในวันที่ 4 มีนาคมนี้

ทั้งนี้ 3 ประเทศได้เห็นตรงกัน ในการหาวิธีการเพิ่มการใช้ยางแต่ละประเทศ ส่วนไทย ได้ยกตัวอย่างการทำถนนพาราซอยซีเมนท์ ได้เริ่มทำถนนในท้องถิ่นแล้ว 20% และเดือนนี้จะเดินหน้าทำทุกชุมชน เพราะได้ผ่านความเห็นชอบองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นทั่วประเทศ ซึ่งจะดึงปริมาณยาง ออกจากตลาดได้กว่า 1 ล้านตัน

ที่ประชุม ยังเห็นด้วยและมีมาตรการพร้อมกัน ที่จะกำหนดราคายางขั้นต่ำโดยเกษตรกรแต่ละประเทศอยู่ได้ไม่ขาดทุน และมาตรการเกี่ยวกับการลดพื้นที่ปลูกยางไปสู่พืชอื่น จะลดลงพร้อมๆ กัน ในคราวเดียวกัน ทำให้ราคายางมีเสถียรภาพมากยิ่งขึ้น นอกจากนี้ได้ตกลง จัดทำตลาดยางพาราในระดับภูมิภาคร่วมกันเป็นตลาดกลางของ3ประเทศ และตั้งสภาการยางแห่งอาเซียน เพื่อเป็นเวทีให้3ประเทศ ได้คิดริเริ่มนวัตกรรมใหม่ แปรรูปยาพารา ค้นคว้าวิจัย

นายกฤษฏา เปิดเผยว่า ในวันที่ 4 มีนาคม จะหารือกันในเรื่องสัดส่วนจำกัดยางส่งออกแต่ละประเทศ ซึ่งวันนี้ยังไม่มีการตกลงที่จะลดทันที โดยก่อนหน้านี้ประเทศอินโดนีเซีย ได้เสนอไทย ให้ร่วมมือลดส่งออก มีผลทำให้ราคายางขยับขึ้น รวมทั้งรัฐบาลไทย เร่งส่งเสริมนำยางไปทำถนนด้วย ทำให้ราคาขึ้นมากว่า 40-50บาท ทั้งนี้ สัดส่วนว่าประเทศใดลดส่งออกเท่าไหร่ จะนำเอาประสบการณ์จากปีที่แล้วมาพูดคุยกัน โดย 3 ประเทศ ผลิตยาง 6-7ล้านตันต่อปี

“เมื่อปีที่แล้วผมโดนต่อว่าพอมาเป็น รมว.เกษตรฯมาถึงก็เซ็นต์ลดส่งออกทันที ยางก็ยังไม่ขึ้นมาก ดังนั้น ปีนี้จึงเตรียมล่วงหน้า วางมาตรการรอบด้าน ยืนยันว่าการหารือในเวทีไตรภาคียาง ผมจะนำไปทำให้เกิดประโยชน์กับเกษตรกร อย่างเป็นรูปธรรม โดยยังมีความกังวล ถึงสถานการณ์เศรษฐกิจโลก สงครามการค้า และราคาน้ำมัน จึงทำให้เราได้มาประชุมรับมือกัน คาดหวังว่าเป็นการเริ่มต้นที่ดีที่เห็นตรงกันในเรื่องเปลี่ยนแปลงลดพื้นที่ปลูกยาง ไปปลูกพืชอื่น ” รมว.เกษตรและสหกรณ์ กล่าว