เพรสทีวี – 30-31 มีนาคมปีนี้ ครบรอบ 40 ปีของการทำประชามติทางประวัติศาสตร์ที่ชาวอิหร่านลงคะแนนอย่างท่วมท้นในการก่อตั้ง “สาธารณรัฐอิสลาม” หลังจากล้มล้างระบอบราชาธิปไตยของ “ราชวงศ์ปาห์ลาวี” ที่สหรัฐฯ หนุนหลัง
ในการลงประชามติสถานที่สำคัญสองวัน ซึ่งจัดขึ้นในวันที่ 30-31 มีนาคม ปี 1979 ชาวอิหร่านที่มีสิทธิ์มากกว่า 98.2 เปอร์เซ็นต์ได้ลงคะแนนเลือกระบอบ “สาธารณรัฐอิสลาม” สำหรับใช้ปกครองประเทศนี้
การโหวตซึ่งจัดขึ้นไม่ถึงสองเดือนหลังชัยชนะของการปฏิวัติอิสลามถือเป็นจุดเปลี่ยนในประวัติศาสตร์สมัยใหม่ของอิหร่าน
ตั้งแต่นั้นมา วันที่ 12 เดือนฟาร์วาร์ดีน (Farvardin เดือนอิหร่าน ตรงกับ 1 เมษายน) ในปฏิทินอิหร่านถูกกำหนดให้เป็นวัน “สาธารณรัฐอิสลาม”
การปฏิวัติอิสลามนี้ซึ่งนำโดยอิหม่ามโคมัยนีไปถึงที่สุดด้วยการโค่นล้ม กษัตริย์โมฮัมหมัด เรซา ปาห์ลาวี และยุติการปกครองระบอบราชาธิปไตย 2,500 ปีในอิหร่าน
นายมาห์มุด อาลาวี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงข่าวกรองอิหร่าน กล่าวในพิธีที่สุสานของอีหม่ามโคมัยนีทางตอนใต้ของกรุงเตหะรานเมื่อวันจันทร์ (1 เม.ย) ว่า อิหม่ามโคมัยนีอดีตผู้ก่อตั้งสาธารณรัฐอิสลามเสนอให้มีการลงประชามติ แม้ตนจะมีอิทธิพลทางจิตวิญญาณอย่างมากมายในหมู่ชาวอิหร่าน ก็เพื่อให้มีความชอบธรรมในการจัดตั้งรัฐอิสลาม
เขาเสริมว่าการลงประชามติเป็นสัญญาณของการเคารพต่อกฎหมายอิสลามและการลงมติของประชาชน
ในวันประชามตินี้ อิหร่านเรียกร้องให้มีการจัดตั้งระบบบนพื้นฐานของค่านิยมของศาสนาอิสลามและเป็นอิสระจากมหาอำนาจโลก
อลาวีย้ำว่า อิหม่ามโคไมนีไม่เคยใช้อำนาจอันยิ่งใหญ่เพื่อให้ได้ชัยชนะเหนือระบอบราชาธิปไตย และเน้นบทบาทของประชาชนในเรื่องนี้เสมอ