ตุรกีประณาม เบ็นจามิน เนทันยาฮู นายกรัฐมนตรีอิสราเอล ที่กล่าวว่า “จะขยายการยึดครองเวสต์แบงก์” หากเขาได้รับการเลือกตั้งอีกครั้ง โดยระบุว่า ถ้อยแถลงดังกล่าวเป็นการฝ่าฝืนกฎหมายระหว่างประเทศและทำลายความพยายามด้านสันติภาพในตะวันออกกลาง เดลี่ซาบะห์ สื่อตุรกีรายงาน
ในข้อความบนทวิตเตอร์ โฆษกประจำตัวประธานาธิบดีตุรกี “อิบราฮิม คาลิน” วิพากษ์วิจารณ์เนทันยาฮูว่าใช้ประโยชน์จากการเลือกตั้งเพื่อหาเหตุผลในการยึดครอง
Yet another example of how Netanyahu uses electoral politics to justify occupation and undermine the two-state solution. If he is re-elected, will this be a triumph of ‘democracy’ or occupation?
Will western democracies react or will they keep appeasing?
Shame on them all! https://t.co/aToXlEOP8X— Ibrahim Kalin (@ikalin1) April 7, 2019
“อีกตัวอย่างหนึ่งของการที่นาทานนาฮูใช้การเลือกตั้งทางการเมืองเพื่อสร้างความชอบธรรมในการยึดครอง และบ่อนทำลายการแก้ปัญหาด้วยสองรัฐ หากเขาได้รับเลือกตั้งอีกครั้ง นี่จะเป็นชัยชนะของ ‘ประชาธิปไตย’ หรือการยึดครอง? ประเทศประชาธิปไตยตะวันตกจะมีปฏิกิริยาตอบโต้หรือพวกเขาแค่นิ่งเงียบ? พวกเขาทั้งหมดช่างน่าอับยศนัก!”
ขณะที่รัฐมนตรีต่างประเทศตุรกี “เมฟลุต คาวูโซกลู” กล่าวด้วยว่า เนทันยาฮูกำลังใช้ประโยชน์จากการเลือกตั้งเพื่อรวบรวมคะแนนเสียงให้มากขึ้น
West Bank is Palestinian territory occupied by Israel in violation of int’l law. Prime Minister Netanyahu’s irresponsible statement to seek votes just before the Israeli general elections cannot and will not change this fact.
— Mevlüt Çavuşoğlu (@MevlutCavusoglu) April 7, 2019
“เวสต์แบงก์เป็นดินแดนของปาเลสไตน์ที่อิสราเอลยึดครองโดยละเมิดกฎหมาย ถ้อยแถลงที่ปราศจากความรับผิดชอบของนายกรัฐมนตรีเนทันยาฮูเพื่อเรียกคะแนนเสียงก่อนการเลือกตั้งทั่วไปของอิสราเอลจะไม่สามารถและจะไม่เปลี่ยนความจริงนี้”
ด้าน โอเมร์ เซลิก โฆษกพรรคความยุติธรรมและการพัฒนา (พรรค AK) กล่าวว่า คำสัญญาของเนทันยาฮูเป็นการละเมิดมติคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติและไม่สนใจกฎหมายระหว่างประเทศ
“ คำมั่นนี้ ไม่เพียงแต่เป็นการฝ่าฝืนกฎหมาย แต่ยังพยายามที่จะทำลายมันอย่างสมบูรณ์” เซลิกกล่าวในทวิต
“ ถึงเวลาที่ประชาคมระหว่างประเทศจะต้องหยุดยั้งความบ้าคลั่งของเนทัยาฮู” เซลิกกล่าวเพิ่มเติมและว่า จุดยืนของนายกรัฐมนตรีอิสราเอลเป็นการโจมตีแบบเปิดเผยต่อคำจำกัดความ “ค่านิยม” ของประชาคมระหว่างประเทศ